- 02 เม.ย. 2560
อิหร่านออกแถลงการณ์ ทำการคว่ำบาตรบริษัทของสหรัฐฯ 15 แห่ง โดยบริษัททั้ง 15 แห่งได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์ ทำการคว่ำบาตรบริษัทของสหรัฐฯ 15 แห่ง โดยบริษัททั้ง 15 แห่งได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและร่วมมือกับอิสราเอล กระทำการอันไม่เหมาะสมต่อปาเลสไตน์
กระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ได้กล่าวว่า บริษัทเหล่านี้ "ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัด" และร่วมมือกับอิสราเอลในเรื่อง "การก่อการร้าย" กับชาวปาเลสไตน์และการขยายตัวของการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว
การประกาศรายชื่อบริษัทเหล่านี้เกิดขึ้นขึ้นสองวันหลังจากที่สหรัฐฯบังคับให้มีการคว่ำบาตร บริษัท หรือบุคคลที่ กว่า 30 รายชื่อ จากประเทศจีนเกาหลีเหนือหรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีซึ่งจะช่วยเพิ่มโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน
อิหร่านจะต้องเผชิญกับการลงโทษอย่างเข้มงวดของสหรัฐฯในเรื่องการยิงขีปนาวุธขีปนาวุธและกิจกรรมที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์อื่น ๆ ภายใต้ร่างกฎหมายที่เรียกว่า การละเมิดบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2558
หนึ่งใน 15 บริษัท ที่ถูกคว่ำบาตร นั่นก็คือ บริษัท “เรย์เธียน” ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธสงครามรายใหญ่ โดยให้เหตุผลประกอบว่า เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ละเมิดบรรทัดฐานสากลด้านมนุษยธรรม ด้วยการให้ความสนับสนุนแก่อิสราเอลเพื่อกดขี่ข่มเหงปาเลสไตน์ และอยู่เบื้องหลัง “กิจกรรมก่อการร้าย” ของรัฐบาลยิวในการขยายอาณาเขตนิคมที่อยู่อาศัยบนดินแดนของปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นการละเมิดมติหมายเลข 2334 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี )
ขอบเขตของการคว่ำบาตรที่มีต่อบริษัททั้ง 15 แห่ง รวมถึงการอายัดทรัพย์สิน และการระงับออกวีซ่าให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทกลุ่มนี้
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านยังวิจารณ์การที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลังอิหร่านทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางเมื่อปลายเดือนมกราคม ว่าละเมิดบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2558