เทียบให้เห็นกันชัด ๆ !! “สหรัฐฯ” กับ “เกาหลีเหนือ” กองทัพ ใครเจ๋งกว่ากัน ทั้งอาวุธ และ กำลังพล แบบที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วิลสัน พร้อมด้วยหมู่เรือพิฆาต มุ่งหน้าไปยังคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ภายในกองทัพเรือสหรัฐฯ

เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วิลสัน พร้อมด้วยหมู่เรือพิฆาต ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกเดินทางจากสิงคโปร์ โดยจะเคลื่อนไปทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับคาบสมุทรเกาหลี โดยทางเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯในกรุงลอนดอน ได้ให้ข้อมูลกับทางด้านรอยเตอร์ เมื่อวันเสาร์

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เดือนก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธสกั๊ดที่ใช้เชื้อเพลิงเหลวแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากการทดสอบยิงออกไป

ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ โดยระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ "เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
การกระทำของสหรัฐฯถือเป็นการแทรกแซงอำนาจอธิปไตยของชาติอื่นอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยเหตุนี้ เกาหลีเหนือจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเพิ่มแสนยานุภาพทางทหาร เพื่อป้องกันการรุกรานจากสหรัฐฯ รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆเลยแม้แต่น้อย

 

 

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนทั่วโลกพากันจับจ้องว่า จะเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ขึ้นหรือไม่ และหากเกิดสงครามจริง ๆ เกาหลีเหนือจะสามารถจัดการกับสหรัฐอเมริกาได้อย่างไร แสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ (ข้อมูลจาก globalfirepower.com) โดยมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพเตรียมพร้อมรบเป็นจำนวนมาก ขณะที่เกาหลีเหนือก็ถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเตรียมกำลังไว้พร้อมรบตลอดเวลาเช่นกัน โดยเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารในลำดับที่ 28

 

 

องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ให้ข้อมูลเรื่องกองทัพสหรัฐอเมริกาไว้ว่า...

ปัจจุบัน กองทัพสหรัฐฯ ตั้งฐานทัพอยู่ใน 156 ประเทศทั่วโลก รวมแล้ว 700 - 800 แห่ง มีกำลังพลประจำฐานทัพต่าง ๆ กว่า 255,000 คน ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาเองนั้น ก็มีฐานทัพและคลังแสงรวมถึง 6,000 แห่ง จึงมีกำลังพลในประเทศและต่างประเทศ รวมกันกว่า 1,400,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นทหารอเมริกันในต่างแดน 325,000 คน กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา เอเชีย อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,000 คน ประเทศญี่ปุ่น มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 40,000 คน

 

 

 

กำลังพลของสหรัฐอเมริกาที่พร้อมปฏิบัติการเมื่อเกิดสงครามแล้ว จะมีอยู่ทั้งสิ้น 1,140,000 คน ขณะที่กองกำลังเสริมจะมีราว 1,458,500 คน

ส่วนอาวุธโทปกรณ์ ก็มีดังนี้...

รถถัง 8,325 คัน
รถถังประจัญบาน 1,934 คัน
รถถังหุ้มเกราะ 18,539 คัน
รถขนอุปกรณ์ 106,407 คัน
ปืนใหญ่ 1,791 กระบอก
ปืนเจาะเกราะรถถัง 28,000 กระบอก
เครื่องยิงจรวด 1,330 ชุด
เครื่องบินรบ 15,293 ลำ
เฮลิคอปเตอร์ 6,665 ลำ
เรือรบ 290 ลำ
เรือรบฟริเกต 24 ลำ
เรือพิฆาต (Destroyers) 61 ลำ
เรือดำน้ำ 71 ลำ
เรือบรรทุกเครื่องบินรบ 10 ลำ
เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 12 ลำ
เรือทุ่นระเบิด 14 ลำ

 

ส่วนทางด้านเกาหลีเหนือ ขณะนี้มีกำลังพลพร้อมรบที่ประจำการอยู่แนวหน้าแล้ว 1,106,000 คน และมีกองกำลังสำรองที่พร้อมเข้าสู่สมรภูมิอีก 8,200,000 คน ขณะที่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เกาหลีเหนือมีใช้นั้น หลัก ๆ ประกอบด้วย

รถถัง 5,400 คัน
รถถังประจัญบาน 2,580 คัน
รถถังหุ้มเกราะ 1,600 คัน
รถขนอุปกรณ์ 38,000 คัน
ปืนใหญ่ 3,500 กระบอก
ปืนเจาะเกราะรถถัง 17,000 กระบอก
เครื่องยิงจรวด 1,600 ชุด
เครื่องบินรบ 1,667 ลำ
เฮลิคอปเตอร์ 237 ลำ
เรือรบ 708 ลำ
เรือรบฟริเกต 3 ลำ
เรือดำน้ำ 70 ลำ
เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 471 ลำ
เรือทุ่นระเบิด 23 ลำ


นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังมีขีปนาวุธที่มีรัศมีทำการแตกต่างกัน 4 ชนิด คือ ขีปนาวุธโนดอง รัศมีทำการ 1,000 กิโลเมตร, ขีปนาวุธ แตโปดอง-1 รัศมีทำการ 2,200 กิโลเมตร, ขีปนาวุธมูซูดาน รัศมีทำการ 4,000 กิโลเมตร และขีปนาวุธ แตโปดอง-2 รัศมีทำการ 6,000 กิโลเมตร

 

 

 

เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่น่ากลัวคือกองกำลังของเกาหลีเหนือก็มีจำนวนมากกว่าทางสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน