- 10 เม.ย. 2560
เธอยังย้ำว่า สหรัฐฯไม่คิดว่า จะเกิดสันติภาพในซีเรียได้ถ้าบาซาร์ อัล อัสซาด ยังคงเป็นผู้นำอยู่
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณี รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย-สหรัฐฯ หารือทางโทรศัพท์เกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังสหรัฐฯ ได้เปิดฉากใช้ขีปนาวุธ โทมาฮอร์ค 59 ลูก ถล่มฐานทัพซีเรีย โดยทางรัสเซียชี้การโจมตีรัฐบาลของประเทศที่ต่อสู้กับลัทธิก่อการร้ายจะทำให้สถานการณ์เข้าทางกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง โดยทางกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลง ว่าทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้แจ้งทาง เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างหารือทางโทรศัพท์ว่าการโจมตีรัฐบาลของประเทศที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย จะทำให้ทางด้านกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงนั้นได้ใจ และยังเป็นการบั่นทอนความมั่นคงในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ และ เรกซ์ ทิลเลอร์สัน ตกลงจะหารือกันต่อเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย โดยคาดว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังมอสโกสัปดาห์นี้
ทางด้านนางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้สัมภาษณ์ว่า การโค่นล้มประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ของซีเรียเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญอันดับแรกของคณะบริหารประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เช่นเดียวกับการเอาชนะกลุ่มไอเอส และการขจัดอิทธิพลของอิหร่านจากซีเรีย พร้อมกันนั้นเธอยังย้ำว่า สหรัฐฯไม่คิดว่า จะเกิดสันติภาพในซีเรียได้ถ้าบาซาร์ อัล อัสซาด ยังคงเป็นผู้นำอยู่
ขณะที่ ซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ และกลุ่มป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเผยว่า กองทัพซีเรียยังคงโจมตีทางอากาศในจังหวัดอิดลิบ ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 18 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 5 คน
ทางด้านพลเรือเอกมิเชล โฮเวิร์ด กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า การโจมตีฐานทัพอากาศในซีเรียทำให้ซีเรียไม่สามารถใช้ฐานทัพดังกล่าวเป็นฐานสำหรับการโจมตีประชาชนด้วยอาวุธเคมีได้อีก และกองทัพสหรัฐฯ ยังคงเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีซ้ำ หากตัวเลือกด้านพลเรือนอื่นๆ ล้มเหลว