การประกาศสงครามโลกครั้งที่ 3 ระหว่างชาติมหาอำนาจทางทหารของโลก นับแต่นี้การสู้รบในรูปแบบ “สงครามแบบใหม่” กำลังเกิดขึ้น และรุนแรงต่อเนื่อง

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เพจแฉความลับ โดย เสธน้ำเงิน ได้นำเสนอบทความ ที่น่าสนใจ ไว้ดังนี้

 

 

 

รัสเซียดักฟังสัญญาณวิทยุสื่อสารของกองกำลัง IS CIA ทางภาคใต้ของเมืองอาเลปโป ที่ตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพซีเรีย กลุ่มก่อการร้ายร้อยพ่อพันแม่พวกนี้ตื่นตระหนกกับการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ต่างวิทยุร้องขอความช่วยเหลือไปยังฐานทัพอเมริกา และผู้บัญชาการทหารของกองกำลัง IS CIA ก็ถูกกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ของอิหร่านจับตัวได้

โฆษกกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ผสมทหารพลเรือนของอิหร่านในอิรัก เผยว่าแกนนำกองกำลังIS CIA ถูกจับกุมได้และได้รับสารภาพสิ้นว่า เจ้านายอเมริกาให้การสนับสนุนยุทธปัจจัยทางทหาร ข่าวสาร ข่าวกรอง และได้แฉเปิดเผยกลไกต่างๆ ของอเมริกาในการช่วยเหลือกองกำลังกำลัง IS CIA และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ อีกด้วย

 

ทั้งการช่วยเหลือในระดับการเมืองระหว่างประเทศ ภาคสนาม และการเลือกจุดตำแหน่งในการปฏิบัติการให้กับกองกำลัง IS CIA โดยอเมริกาได้ให้ข้อมูลด้านยุทธ์ศาสตร์และเป้าหมายของการปฏิบัติการของทหารอิรักให้กับกลุ่มก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้จึงรู้ว่าจะจัดวางกองกำลังของตนในเขตพื้นที่ใดบ้าง

และการปฏิบัติการของกองกำลังทหารอิรักจะเริ่มจากจุดใด และเป็นการปฏิบัติการในระดับไหน เช่น อเมริกา ให้ความมั่นใจให้กับกองกำลัง IS CIA ว่า กองกำลังทหารอิรักจะไม่เข้าไปปฏิบัติการในเขตพื้นที่ฟาลูจาห์ เนื่องจากอเมริกาได้ขัดขวางรัฐบาลอิรักแล้วไม่ให้กองกำลังเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว

และให้กองกำลัง IS CIA ไปปฏิบัติการในเขตพื้นที่บีจีแทน และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงร่นถอยออกจากเมืองฟาลูจาห์ และไปตั้งหลักเตรียมความพร้อมในเมืองบีจี แต่ก็มีบางครั้งที่การข่าวของอเมริกาผิดพลาด เช่น หัวหน้าใหญ่หุ่นเชิดกองกำลัง IS CIA นายบักตาดีถูกเครื่องบินรบของอิรักและรัสเซียโจมตีขบวนรถจนปางตาย

 

จนอเมริกาต้องรีบส่งกองกำลังมารับไปรักษาตัวที่อเมริกาและหายตัวไป จากนั้นสั่งปล่อยหัวหน้ากองกำลัง IS CIA คนแรกออกมาจากคุกตุรกีเพื่อมารับไม้ต่อในการนำกองกำลังก่อการร้ายในตะวันออกกลางแทนนายบักตาดี ท่ามกลางความพ่ายแพ้ยับเยินของอเมริกาในสมรภูมิรบตะวันออกกลาง

 

ซาอุฯ และอเมริกาใช้ยาเสพติดปริมาณมากมายมหาศาลในการปรนเปรอกองกำลัง IS CIA นักรบพวกนี้จึงเรียกว่า “นักรบขี้ยา” ก็ไม่ผิดเท่าใดนัก เพราะรบไปก็เพื่อแลกกับการได้เสพยาเสพติดและข่มขืนหญิงสาวชาวบ้าน หลักฐานเรื่องนี้คือมีการผิดคิวเกิดขึ้นเมื่อเจ้าชายของซาอุฯ องค์หนึ่งถูกจับได้คาหนังคาเขาในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน พร้อมกับยาเสพติดเต็มเครื่องบินที่กำลังขนไปให้กองกำลัง IS CIA ในตะวันออกกกลาง

และที่ชวนช็อคโลกก็คือ กรรมาธิการอาวุธสภาคองเกรสอเมริกาจัดประชุมเตรียมการเรื่องสงคราม ไต่สวนผู้เกี่ยวข้องในสงครามไซเบอร์ , การวางกำลังเรือบรรทุกเครื่องบินทั่วโลกและสงครามนิวเคลียร์ ที่ประชุมลงความเห็นว่าสงครามอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปี เพราะอเมริกามีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ และด้อยความสามารถกว่ารัสเซียกับจีน

 

นายแพทริค มาร์ติน ได้เขียนรายงานระบุว่าอเมริกาเตรียมพร้อมแล้วในการทำสงครามโลกครั้งที่ 3 (Washington prepares for World War III) โดยสำนักงานหน่วยข่าวกรองทางทหารของอเมริกาจัดระบบเตรียมการไว้พร้อมทำสงครามโลกครั้งที่ 3 เพนตากอนรายงานว่าความขัดแย้งทางทหาร กับจีนและรัสเซียเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 คณะกรรมาธิการสภาคองเกรส 3 คณะจัดประชุมประกอบด้วยคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภา ถกกันเรื่องสงครามทางไซเบอร์ คณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสภาผู้แทนประชุม ถึงประเด็นของขนาดและการวางกำลังเรือบรรทุกเครื่องบินในจุดต่างๆที่สหรัฐวางไว้ทั่วโลก

 

ในขณะที่คณะอนุกรรมาธิการอาวุธของ 2 สภาประชุมเกี่ยวกับความทันสมัยของอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐ ได้ประชุมกันถึงระบบของสงครามโลกครั้งที่ 3 ระหว่างอเมริกาทำสงครามกับจีน และรัสเซีย โดยการเตรียมการสงครามโลกครั้งนี้มุ่งการใช้อาวุธไซเบอร์ การใช้เรือบรรทุกเครื่องบิน,การทิ้งระเบิด , การใช้ขีปนาวุธรวมทั้งอาวุธต่างๆ ที่กองทัพมีอยู่

โดยที่ประชุมมีข้อสรุปชัดแจ้งว่าสงครามโลกจะเกิดภายในไม่กี่ปี โดยอเมริกาจะมีการสร้างอันตรายขึ้นมาจากกลุ่มก่อการร้าย , เกิดความโกลาหลจลาจลขึ้น โดยมีรูปแบบคือ “เรือรบของสหรัฐและจีนต่อสู้กันในทะเล, ยิงกันทุกรูปแบบจากปืนใหญ่ไปถึงขีปนาวุธถึงยิงด้วยแสงเลเซอร์ เครื่องบินรบของรัสเซียและสหรัฐต่อกรกันทางอากาศ

 

หุ่นยนต์โดรนถูกปล่อยขึ้นท้องฟ้าแทนนักบิน กลุ่มแฮกเกอร์ที่เซียงไฮ้และซิลิคอน แวลเลย์ดวลกันในสนามดิจิตอล การต่อสู้กันในอวกาศจะทำให้รู้ว่าใครจะชนะบนพื้น ซึ่งอเมริกาต้องการ “ชัยชนะ” เพื่อต้องการเป็นมหาอำนาจทางอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อครอบครองและจัดระเบียบโลกใหม่

วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต และจากพรรครีพับลิกัน ทั้ง 2 พรรคมีความเห็นร่วมกันในการเตรียมการทำสงครามโลกครั้งใหม่นี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศอเมริกาเป็น “เผด็จการซ่อนรูปในเสื้อคลุมประชาธิปไตย” นักการเมืองเหล่านี้เป็นผู้แทนของธุรกิจขนาดใหญ่ จึงไม่มีการขัดขวางใดๆที่จะนำไปสู่สงคราม

 

 

ปัจจุบันสังคมอเมริกันมีปัญหา 2 จุดใหญ่ คือ เศรษฐกิจของอเมริกาตกต่ำลงถึงขีดสุด เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขนาดใหญ่ และสังคมอเมริกันที่มีชนชั้นคนงานเพิ่มขึ้น คนเหล่านี้พร้อมจะถูกเกณฑ์ไปทำสงครามโลกครั้งใหม่ ความเป็นอยู่ของคนอเมริกันก็จะตกต่ำลง แต่กองเลือดที่จะต้องเพิ่มขึ้น ลูกหลานของชนชั้นคนงาน จะถูกเกณฑ์ไปทำสงครามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

โดยทหารเรืออเมริการะบุว่ากองทัพมีเรือบรรทุกเครื่องบิน 11 ลำ เพื่อครอบคลุมทั้งโลก แต่ในความเป็นจริงแล้วต้องการถึง 21 ลำ และเรือจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัวจากที่มีอยู่ปัจจุบัน แต่หากต้องต่อเรือขนาดใหญ่ที่ว่านี้ประเทศก็ต้องถึงกับล้มละลายเพราะต้องใช้เงินมากมายมหาศาล

 

หากเกิดสงครามระหว่างอเมริกากับมหาอำนาจจีน หรือรัสเซีย หรืออาจจะหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์กันได้ แต่ก็จะมีการเคลื่อนย้ายทรัพยากรในสังคมอเมริกันทั้งเรื่องเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นการทำสงครามกับจีนหรือรัสเซีย อเมริกาจะต้องฟื้นฟูระบบการเกณฑ์ทหารกลับมาใหม่ และครอบครัวอเมริกันจะมีค่าใช้จ่ายเป็นชีวิตมนุษย์กันทุกครอบครัว

ล่าสุดเพนตากอนอเมริกา ได้ใช้เรือดำน้ำ USS Kentucky ปฎิบัติการลับ “ยิงขีปนาวุธไทรเดนต์ II (D5) ที่มีศักยภาพสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์” ปฎิบัติการลับนอก ฝั่งตะวันตกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายในอาณาบริเวณ จุดการฝึกซ้อมในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลอสแอนเจลิส

ผลคือทำให้ชาวอเมริกันในเมืองแอเอตกตื่นใจ เมื่อพบลำแสงสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าในช่วงกลางคืน แสงสีน้ำเงินจากการยิงขีปนาวุธของอเมริกา สามารถมองเห็นได้ไกลถึงรัฐเนวาดาและ รัฐแอริโซนา ซึ่งอยู่ติดกับรัฐแคลิฟอร์เนีย ประชาชนในพื้นที่และรวมไปถึงผู้มีชื่อเสียงต่างขวัญเสีย และพากันการคาดการณ์ถึงเรื่องนี้คิดไปต่างๆนานาถึงความน่าจะเป็น

ทำให้เครื่องบินโดยสารที่ต้องมีกำหนดการลงจอดท่าอากาศยานแอลเอ LAX ต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินไม่ให้เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนานร่วมสัปดาห์ เพราะต้องเลี่ยงไม่บินในเส้นทางบินเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย เพื่อหลีกเลี่ยงตารางการซ้อมรบของกองทัพอเมริกา

และนายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ออกมายอมรับว่าสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารแอร์บัส A321-200 เที่ยวบิน KGL 9268 สายการบินโคกาลีมาเวีย หรือเมโทรเจ็ต ของรัสเซีย ตกทางตอนเหนือของคาบสมุทรไซนายในอียิปต์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาจนมีคนตายกว่า 210 คน “คือการโจมตีของก่อการร้าย”

มันคือจุดเริ่มต้นของการประกาศสงครามโลกครั้งที่ 3 ระหว่างชาติมหาอำนาจทางทหารของโลก นับแต่นี้การสู้รบในรูปแบบ “สงครามแบบใหม่” จะเกิดขึ้นตามมาอย่างชุลมุน จนไม่รู้ใครเป็นใครและจะขยายวงความรุนแรงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน..ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมสมบูรณ์แล้วสำหรับการกดปุ่มปลูกเห็ดยักษ์ใส่กัน..อยู่ที่ว่าใครจะกดปุ่มก่อนกัน ??