- 19 เม.ย. 2560
ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิเคราะห์เอาไว้ว่า
ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิเคราะห์เอาไว้ว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง และ กรณีของอังกฤษ นั้นพาตัวเองออกจากสหภาพยุโรป บ่งบอกได้ว่าประชาชนนั้นกำลังเปลี่ยนแนวคิดของตนเองต่อระบบทุนนิยม และอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงบานปลายระดับโลกได้
โดยทางด้าน ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ได้อ้างข้อมูลในอดีตว่าคล้ายกับ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสมัยก่อนการเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 โดยที่ทั้งสองครั้งนั้นทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับข้อมูลเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางทหาร และก็มีการแข่งขันกันทางด้านอาวุธ
นอกจากนั้นแล้วทางด้านศาสตรจารย์ ผู้นี้ยังได้ยกเอาสถานการณ์ การเมืองในปัจจุบันนี้ เทียบเคียงกับสถานการณ์เมืองก่อนการเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งเขาย้ำอีกว่า สถานการณ์ ปัจจุบันนี้ ใกล้เคียงกับการเกิดหายนะโลกอีกครั้ง ซึ่งนั่นมันอาจจะเกิดสงคราม ครั้งใหญ่ อีกครั้งนั่นเอง
ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ระอุหนักมากยิ่งขึ้น เมื่อนายคิม อิน รยอง อัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการตอบโต้ด้วยขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์ หากสหรัฐฯ เลือกที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับทางเกาหลีเหนือ และเกาหลีเหนือเองก็พร้อมจะตอบโต้ทุกรูปแบบอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศ
ก่อนหน้านี้ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดถึงเกาหลีเหนือว่าไม่ควรคิดลองดี กับสหรัฐฯ มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยซีเรียและอัฟกานิสถานอีก ด้านฮัน ซง รยอล รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวว่าเกาหลีเหนือยังจะทำการทดสอบขีปนาวุธต่อไป โดยจะทำเป็นรายสัปดาห์ รายเดือนและรายปี ซึ่งเกาหลีเหนือเชื่อว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะช่วยปกป้องภัยคุกคามจากปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่ได้กระทำการที่ไม่เหมาะสมต่อเกาหลีเหนือ