- 02 พ.ค. 2560
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลง ผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ว่าเกาหลีเหนือพร้อมที่จะโจมตีสหรัฐฯ ได้ทันทีด้วยนิวเคลียร์ในระดับสูงสุด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลง ผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ว่าเกาหลีเหนือพร้อมที่จะโจมตีสหรัฐฯ ได้ทันทีด้วยนิวเคลียร์ในระดับสูงสุดในเวลาและสถานที่ใดก็ได้ ตามคำสั่งของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยกเว้นว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกนโยบายการเป็นศัตรู กับเกาหลีเหนือเท่านั้น
เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์มาแล้ว 5 ครั้ง และเชื่อกันว่าจะสามารถพัฒนาจนประกอบกับขีปนาวุธที่สามารถติดตั้งหัวรบและยิงไกลถึงสหรัฐฯ แม้ว่าการซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะประสบความล้มเหลวอีกครั้งก็ตาม นอกจากนั้นแล้วโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ยังกล่าวว่าเกาหลีเหนือจำเป็นต้องมีกองกำลังนิวเคลียร์ทรงอานุภาพ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นคงถูกสหรัฐฯ นั้นรุกรานเหมือนประเทศอื่น ๆ ที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเฟซ เดอะ เนชั่นของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส ระบุว่า ถ้าเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์อีก เขาคงไม่ชอบใจ และเมื่อถามว่า หมายความว่า อเมริกาจะใช้ปฏิบัติการทางทหารใช่หรือไม่ ผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่าไม่รู้หรอก ผมหมายความว่า เราจะได้เห็นกัน นอกจากนั้นแล้ว รีนซ์ พรีบัส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยต่อพิธีกรรายการดีสวีค ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ว่าสหรัฐฯ ต้องการความร่วมมือในบางระดับ กับประเทศหุ้นส่วนในพื้นที่จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อความมั่นใจว่าสหรัฐฯมีความพร้อมก่อนจะลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่าง โดยเจ้าหน้าทีรายนี้ ได้ให้ข้อมูลต่อว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือกับทางด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับกรณีของเกาหลีเหนือ และต้องการที่จะพูดคุยกับทางด้านผู้นำประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เพื่อขอให้ทุกประเทศสนับสนุนแผนการในการจัดการกับเกาหลีเหนือ พร้อมกับอวดอ้างว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับทางด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนอีกด้วย
รีนซ์ พรีบัส ยังกล่าวย้ำในรายการว่าขณะนี้ไม่มีภัยคุกคามใดร้ายแรงกว่าเกาหลีเหนืออีกแล้ว แผนการสนทนาหารือกับผู้นำอาเซียน ไม่ว่าผู้นำของประเทศไทย หรือสิงคโปร์ เกิดจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ และอาวุธทำลายล้างสูงในเอเชีย และท้ายที่สุดภัยร้ายเหล่านั้นก็จะมาถึงสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นเดียวกัน
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซลยืนยัน ว่า ไมค์ ปอมปิโอ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เดินทางไปโซลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อประชุมเป็นการภายใน โดยการครั้งนี้เป็นประชุมแบบปิดลับกับหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองและเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยมีการบรรยายสรุปนโยบายของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือ และประเมินสถานการณ์ภายในของผู้นำเกาหลีเหนือ