ยุติความรุนแรงได้จริงหรือ?? “รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี” ลงนามแผนจัดตั้งเขตปลอดภัยซีเรีย ขณะที่กบฏ และ รัฐบาล ไม่เอาด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว กรณีการประชุมสันติภาพ ซีเรียครั้งที่ 4 จากเมืองอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน โดยรัสเซียได้เสนอแผนจัดตั้งเขตปลอดภัยในซีเรีย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อความสงบและยุติความขัดแย้งในอนาคต อย่างไรก็ตามสมาชิกหลายคนของคณะผู้แทนกบฏลุกออกจากห้องตอนที่มีการลงนาม ณ โต๊ะเจรจา พร้อมกับตะโกนแสดงความไม่พอใจใส่อิหร่าน พันธมิตรของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวปรากฏว่า ทางด้านผู้แทนฝ่ายกลุ่มกบฏ และ ผู้แทนรัฐบาลซีเรียนั้นไม่ได้ลงนามด้วย มีเพียง รัสเซีย อิหร่าน และ ตุรกี เท่านั้นที่ได้ลงนาม


พวกฝ่ายค้านติดอาวุธซีเรีย ปฏิเสธแผนของรัสเซียในการจัดตั้งเซฟโซน โดยบอกว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ พร้อมประกาศกร้าว่าจะไม่ยอมรับอิหร่านในฐานะผู้รับประกันแผนหยุดยิงใดๆ

ในขณะที่ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศตุรกีบอกว่าเซฟโซนจะครอบคลุมจังหวัดอิดลิบทั้งหมด บางส่วนของจังหวัดลาตาเคีย, อเลปโป, ฮามาและฮอมส์ เช่นเดียวกับเขตโกตา แถบชานเมืองของดามัสกัส รวมถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดเดราและกูไนตรา

เซฟโซนจะอยู่ในการบังคับใช้เป็นเวลา 6 เดือน แต่ท้ายที่สุดอาจมีการขยายกรอบเวลาออกไป เป้าหมายยุติความรุนแรงในทันทีและมอบสภาพแวดล้อมปลอดภัยแก่พวกผู้ลี้ภัยที่สมัครใจกลับคืนสู่ถิ่นฐาน เช่นเดียวกับส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างทันทีทันใด แต่ในขณะที่ ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะทำหน้าที่ในการคุมเซฟโซน


 

ทางด้านรัสเซียพร้อมส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าเฝ้าระวังเขตปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดมีร์ ปูติน ระบุ ว่าแนวทางสังเกตการณ์เซฟโซนจะเป็นประเด็นที่มีการหารือกันต่างหากอีกครั้ง โดยแผนการดังกล่าวนั้นสะท้อนคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่หวังเห็นการกำหนดเซฟโซนในซีเรีย ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีเรเซฟ เตอร์ยิป เฮอร์โดกัน
ระบุว่าแผนการของรัสเซียที่จะตั้งเขตลดความรุนแรงภายในซีเรีย จะแก้ไขความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานาน 6 ปีได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์