อินโดนีเซียเคยติดต่อเจรจากับบริษัทคู่กรณี เพื่อหาทางประนีประนอมยอมความกันนอกศาลร่วมกันหลายครั้งแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ปตท.กลับไม่เข้าร่วม

สำนักข่าวเอพี รายงานข่าวกรณี นายอารีฟ ฮาวาส โอโกรเซโน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกิจการทางทะเลของอินโดนีเซีย ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ทางรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงกรุงจาการ์ตา เพื่อที่จะเรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จากบริษัทปิโตเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด ( มหาชน ) หรือปตท. บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน ) หรือปตท.สผ. และบริษัทพีทีทีอีพี ออสตราล เอเซีย ซึ่งเป็นบริษัทลูกในออสเตรเลียของปตท. จากกรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลในทะเลติมอร์ ทางตอนใต้ของอินโดนีเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552

เหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดจากแท่นขุดเจาะมอนทารา เกิดการระเบิด และทำให้น้ำมันกระจายสู่ทะเลติมอร์ นานกว่า 10 สัปดาห์ สร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศน์ ทางทะเล และแนวปะการัง และ ป่าชายเลนล้มตายเกือบทั้งหมด นอกจากฟ้องศาลแล้วทางรัฐบาล อินโดนีเซีย ได้เตรียมอายัดทรัพย์สิน ที่มีอยู่ในอินโดนีเซีย นอกจากนั้นทางด้าน นายอารีฟ ฮาวาส โอโกรเซโน เปิดเผยว่า อินโดนีเซียเคยติดต่อเจรจากับบริษัทคู่กรณี เพื่อหาทางประนีประนอมยอมความกันนอกศาลร่วมกันหลายครั้งแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ปตท.กลับไม่เข้าร่วมลงนามในข้อตกลง นั่นถือว่า ปตท. ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ปตท.เจอของจริงเข้าแล้ว!! “ปตท.” โดน อินโด เรียกค่าเสียหาย 7 หมื่นล้านบาท เตรียมอายัดทรัพย์สิน เหตุทำน้ำมันรั่ว ปี 2552