เพื่อชาติ หรือ เพื่อตัวเอง ?? 2อัยการรัฐฟ้อง"ทรัมป์" ผิดรัฐธรรมนูญ"รับเงินต่างชาติ"ผลประโยชน์ทับซ้อน??

กระแสการต่อต้าน "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา" เกิดขึ้นไม่หยุดจริง จากเรื่องนู้นกระโดดข้ามมาเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ภายหลังที่ทรัมป์ ได้เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีอย่างเต็มตัว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้ถูกกล่าวหาจากกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากทรัมป์ปฏิเสธจะค้าธุรกิจต่างๆ แต่โอนอำนาจให้ไปอยู่ในมือของลูกชาย ทั้ง2คน  เป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนี้ ส่งผลให้ทรัมป์ถูกองค์กรเอกชนแห่งหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเดือนมกราคม กล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากธุรกิจของเขารับเงินจากต่างชาติ

 

และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดของรัฐแมรี่แลนด์และกรุงวอชิงตันดี.ซี. ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์โดยกล่าวหาว่าละเมิดบทบัญญัติชื่อ emoluments clauses ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ห้ามเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ รับค่าตอบแทนจากธุรกิจใดๆ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ อีกทั้งยังห้ามผู้นำของสหรัฐฯ รับค่าตอบแทนอื่นใดนอกเหนือจากค่าตอบแทนในตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริตฉ้อฉน

อัยการสูงสุดทั้ง2รัฐ จะฟ้องต่อศาลแขวง ว่า ทรัมป์ ไม่แยกผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากการทำหน้าที่ประธานาธิบดี โดยอ้างว่าโรงแรมของทรัมป์ ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปีก่อน โดยเช่าอาคารของรัฐที่เคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์กลางและไม่ห่างจากทำเนียบขาว ได้ทำให้โรงแรมอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตอำนาจตุลาการของอัยการทั้งสองแห่งเสียหาย เนื่องจากรัฐบาลต่างชาติเลือกจองที่พักในโรงแรมของทรัมป์มากกว่าโรงแรมอื่น เช่น สถานทูตคูเวต ที่เปลี่ยนสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองวันชาติคูเวตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นโรงแรมทรัมป์อินเตอร์เนชันแนล ทั้งๆ ที่เคยจัดที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ในกรุงวอชิงตัน มาโดยตลอด

และอัยการสูงสุดของรัฐแมรี่แลนด์ได้ชี้ว่า ชาวอเมริกันไม่เคยต้องตั้งคำถามมาก่อนว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นมีขึ้นเพื่อประเทศชาติหรือเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง 

ตามรายงานของฟอร์บส์กล่าวว่า สนามแห่งนี้เคยให้พื้นที่ใช้ฟรี แต่มาเริ่มเก็บเงินในปี 2553 โดยข้อมูลจากการยื่นภาษีปี 2558 พบว่าค่าเช่าใช้สนาม 1 วันสูงถึง 322,000 ดอลลาร์ ทั้งที่ค่าใช้จ่ายจริงอยู่ที่ราว 100,000 ดอลลาร์ แหล่งข่าวเผยว่า ทรัมป์เป็นคนสั่งการให้เรียกเก็บเงินนี้.

อย่างไรก็ตามด้านนางเชอรี ดิลลอน ที่ปรึกษาของนายทรัมป์ กล่าวว่า บทบัญญัติดังกล่าวในรัฐธรรมนูญไม่ครอบคลุมถึงการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมเช่นการจ่ายเงินสำหรับค่าที่พัก