ต้องดูว่ากลุ่มเหล่านี้จะมีทุนนอกเข้ามาหนุนหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อาจจะอ่อนกำลังไปในที่สุด แต่ถ้ามีทุนนอกเข้ามาหนุน ก็อาจจะทำให้ฟื้นคืนชีพในช่วงเวลาไม่นาน

ต้องดูว่ากลุ่มเหล่านี้จะมีทุนนอกเข้ามาหนุนหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อาจจะอ่อนกำลังไปในที่สุด แต่ถ้ามีทุนนอกเข้ามาหนุน ก็อาจจะทำให้ฟื้นคืนชีพในช่วงเวลาไม่นานและจะทำให้สถานการณ์ การสู้รบ ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

ฟิลิปปินส์ ปราบก่อการร้ายมาอูเต ไม่ง่าย หากมีทุนนอกหนุน หวังแยกเอกราช

การสู้รบระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์ กับกลุ่มก่อการร้ายมาอูเต หลังผ่านระยะเวลาหยุดยิง 8 ชั่วโมงไปแล้ว ความพยายามยึดคืนเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยการเปิดเผยของทาง พันโทโฮอาร์ เออร์เรรา โฆษกกองกำลังเฉพาะกิจ กองทัพฟิลิปปินส์ ได้แถลงว่า ขณะนี้ กลุ่มมาอูเต ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมของกลุ่มไอเอส กำลังประสบปัญหาอย่างหนักเนื่องจากขาดผู้นำในการต่อสู้ เพราะสองพี่น้องมาอูเต ผู้นำเดิมนั้นได้ถูกสังหารในการสู้รบครั้งนี้แล้ว นอกจากนั้นแล้วคำแถลงยังยืนยันว่า อีกไม่นานทางด้านกองทัพฟิลิปปินส์จะกำชัยชนะในการสู้รบและยึดมาราวี คืนได้อย่างแน่นอน



นอกจากกลุ่มมาอูเต จะต้องขาดผู้นำทัพในการต่อสู้แล้วขณะนี้ทางกลุ่มกำลังเกิดปัญหาคือการสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์ กระสุนปืน และที่สำคัญคือจำนวนนักรบที่ลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่เริ่มบุกยึดเมืองมาราวีมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 400
ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบของกลุ่มมาอูเต

ซึ่งมีนักรบต่างชาติจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และภูมิภาคเชชเนียในรัสเซียรวมอยู่ด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเสียชีวิตอย่างน้อย 69 นาย และพลเรือนอีกอย่างน้อย 85 คน นอกจากนี้ประชาชนทั้งในเมืองมาราวีและพื้นที่ใกล้เคียงรวมราว 300,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่

 

ฟิลิปปินส์ ปราบก่อการร้ายมาอูเต ไม่ง่าย หากมีทุนนอกหนุน หวังแยกเอกราช



ขณะที่มีการเปิดเผยว่าบาทหลวงเทเรสซิโต้ ชิโต้ ซูกาน็อบ จากวิหารเซนต์แมรีที่ถูกกลุ่มมาอูเตจับตัวไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ยังมีชีวิตอยู่และเป็นหนึ่งในตัวประกันโล่มนุษย์ร่วมกับชาวบ้านราว 100 คน

 

ขณะที่ทางด้านกองทัพยังส่งเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ถล่มที่มั่นต่างๆของพวกนักรบ แม้ก่อความเสี่ยงต่อพลเมืองหรือแม้แต่ทหารของพวกเขาเอง ทำให้ระเบิดทำลายล้างย่านต่างๆพังพินาศ แต่พวกนักรบยังคงซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่างๆในมาราวี หลบอยู่ในห้องใต้ดินป้องกันระเบิดและเคลื่อนไหวผ่านอุโมงค์ต่างๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เชื่อว่ามีชาวบ้านอีกหลายร้อยคนที่ยังติดอยู่ภายในพื้นที่ควบคุมของพวกนักรบ

 

 

ฟิลิปปินส์ ปราบก่อการร้ายมาอูเต ไม่ง่าย หากมีทุนนอกหนุน หวังแยกเอกราช

 

ทางด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ระบุก่อนหน้านี้ว่า การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขนาดใหญ่ของไอเอสที่ต้องการเข้าไปตั้งฐานที่มั่นทางใต้ของมินดาเนา และประกาศเอกราช ด้วยเหตุนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์จึงประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะดังกล่าวทันทีที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งในการสู้รบครั้งนี้พบว่านักรบเหล่านี้บางส่วนมาจากตะวันออกกลาง ทำให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พากันกังวลว่า กลุ่มก่อการร้ายไอเอสในอิรักและซีเรีย ที่กำลังโดนยึดพื้นที่คืนนั้น ได้พยายามแทรกเข้าไปหาที่มั่นในมินดาเนา ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อภูมิภาคนี้

 

 

 

ทางด้าน อลัน ปีเตอร์ คาเยทาโน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ได้เปิดเผยว่าการปลดปล่อยมาราวี เป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อนเมื่อพิจารณาจากปัญหาและสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มก่อการร้ายมีแผนเข้ายึดเมืองในมินดาเนาอย่างน้อย 2-3 เมือง แต่แผนการดังกล่าวถูกขัดขวางโดยกองทัพรัฐบาลที่เปิดฉากลงมือก่อนด้วยการบุกมาราวีเพื่อจับกุมอิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มอาบูไซยาฟและหัวหน้าขบวนการไอเอสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว แม้ปฏิบัติการดังกล่าวจะไม่สำเร็จก็ตาม นอกจากนั้นแล้วฟิลิปปินส์ต้องการร่วมมือกับอินโดนีเซียและมาเลเซียเพื่อสกัดกลุ่มหัวรุนแรง การสู้รบกับไอเอสในซีเรียและอิรัก จะทำให้กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้จำเป็นต้องหาฐานที่มั่นใหม่ ซึ่งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ล้วนเป็นเป้าหมายสำคัญ

ขณะที่ทางด้านพลโทคาร์ลิโต กัลเวซ ผู้บัญชาการทหารฟิลิปปินส์ในแถบมาราวี ได้เปิดเผยว่าการต่อสู้ในมาราวีจะยากลำบากและนองเลือดที่สุด และอาจใช้เวลาอีกหลายวันและหลายเดือนในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ


โรดริโก ดูเตอร์เต ยอมรับว่าทหารราบของพวกเขาอาจพ่ายแพ้การสู้รบครั้งนี้ไปแล้ว หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการทางอากาศ

ล่าสุดทางด้านกองทัพได้ส่งเครื่องบิน OV-10 Bronco ปฏิบัติการโจมตีที่เมืองมาราวี จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

 

 

 

 

 


ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ได้กล่าวความรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นและหวังว่าเร็วๆนี้ในหัวใจของประชาชนคนฟิลิปปินส์จะยอมยกโทษให้แก่ทหารและรัฐบาล หรือแม้กระทั่งตัวผู้นำฟิลิปปินส์เอง
 


ซึ่งต้องดูว่ากลุ่มเหล่านี้จะมีทุนนอกเข้ามาหนุนหรือไม่ ถ้าไม่มีก็อาจจะอ่อนกำลังไปในที่สุด แต่ถ้ามีทุนนอกเข้ามาหนุน ก็อาจจะทำให้ฟื้นคืนชีพในช่วงเวลาไม่นานและจะทำให้สถานการณ์ การสู้รบ ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

ฟิลิปปินส์ ปราบก่อการร้ายมาอูเต ไม่ง่าย หากมีทุนนอกหนุน หวังแยกเอกราช