- 04 ก.ค. 2560
พินิจ ได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่ ซาน ฟรานซิสโก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเปลี่ยนลุคส์ใหม่สุดฮือฮา พร้อมกับเปิดบัญชีใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Pauline Ngarmpring
พินิจ ได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่ ซาน ฟรานซิสโก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเปลี่ยนลุคส์ใหม่สุดฮือฮา พร้อมกับเปิดบัญชีใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Pauline Ngarmpring โดยอัพรูปโฉมใหม่ของตัวเอง รวมถึงข้อความที่ระบุว่า "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ล้วนเป็นสิ่งดี"
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 มีการเปิดเผยข้อมูล นายพินิจ งามพริ้ง ในฐานะของผู้ก่อตั้งและเป็นประธานกลุ่ม เชียร์ไทยพาวเวอร์คือการที่ พินิจ เคยลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเมื่อปี พศ. 2556 แข่งกับ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกฯ โดยปีนั้นมีผู้สมัครอีก 1 คนคือ “บิ๊กก๊อง” วิรัช ชาญพานิช แต่ พินิจ ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นผู้สมัครไปก่อนจะถึงวันเลือกตั้งและหันไปสนับสนุน “บิ๊กก๊อง” เต็มตัว
พินิจ และกลุ่มเชียร์ไทยได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการ ฟุตบอลไทยด้วยการประท้วงขับไล่นายกสมาคมฟุตบอลสมัยที่นายวิจิตร เกตุแก้ว ดำรงตำแหน่ง ซึ่งนายวิจิตรลาออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา และจัดกิจกรรมให้สมาชิกเข้านำเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง พินิจ ได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่ ซาน ฟรานซิสโก ทำธุรกิจร้านอาหาร และเปลี่ยนลุคส์ใหม่สุดฮือฮา พร้อมกับเปิดบัญชีใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Pauline Ngarmpring โดยอัพรูปโฉมใหม่ของตัวเอง รวมถึงข้อความที่ระบุว่า "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ล้วนเป็นสิ่งดี"
และล่าสุด พอลลีน งามพริ้ง เจ้าตัวเพิ่งออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองที่ชื่อ “Pauline Ngarmpring”
“วันนี้เหนื่อยมาก กับภารกิจ และวัตรประจำวัน ที่ต้องทำประกอบกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาในชีวิตเล็กๆนี้”
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ มานานมากแล้ว และคิดว่าหน้าเฟสนี้ และเรื่องนี้ เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ต้องขอบคุณสื่อมวลชน และผู้คนที่ให้ความสนใจ รวมถึงกำลังใจจากมิตรสหายที่ส่งเข้ามาเยอะมาก”
“เรื่องนี้ เริ่มต้นในจิตใจมาตั้งแต่เกิด แต่พยายามทำตาม ความคาดหวังของทุกคน ณ ขณะนั้นๆ ให้ดีที่สุด ไม่เคยคิดโกหกหลอกลวงใคร”
“คนทุกคนก็มีสิทธิ์ของตนที่ไม่ละเมิดผู้อื่น แต่ทุกอย่างขอให้มาลงที่เราคนเดียว ไม่เกี่ยวกับครอบครัวใกล้ชิด”
“ตอนนี้ขอพัก และยังไม่ตอบคำถามใดๆ เพราะยังเป็นห่วงทายาทที่ยังเด็ก และคนที่อาจจะได้ผลกระทบ เมื่อเวลามาถึง เราก็พร้อมจะตอบทุกคำถาม เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกคน และความจริง ถูกทำให้ประจักษ์ขึ้นด้วยตัวของมันเอง”