ใครน่ายำเกรงกว่ากัน!! “สหรัฐฯ” ซ้อมรบร่วม “เกาหลีใต้” ขู่เอาคืน “เกาหลีเหนือ” ขณะที่ “จีน” หารือ “รัสเซีย” แก้วิกฤติวิธีทางการทูต

นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากล่าวประณามอย่างรุนแรงที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป โดยเรียกว่าเป็น ภัยคุกคามครั้งใหม่ต่อสหรัฐฯ, พันธมิตรของสหรัฐฯ, ภูมิภาค และทั้งโลก พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามครั้งนี้

 

 

เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ อีกครั้งในเช้าวันอังคารที่ผ่านมา โดยทางด้านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปตกในส่วนของทะเลญี่ปุ่น

"เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ ที่ไม่ปรากฏชื่อไปยังทะเลตะวันออกจากบริเวณใกล้เคียงของ Banghyon, North Pyongan Province เวลาประมาณ 9:40 am" หัวหน้าหน่วยงานร่วมกล่าว

 

ทางด้านเกาหลีใต้รายงานว่า ขีปนาวุธ ได้เดินทางด้วยระยะทางไกลกว่า 930 กิโลเมตร ขณะที่ทางด้านหน่วยงานของสหรัฐฯ ได้ตรวจสอบวิถีและลักษณะของขีปนาวุธแล้ว พบว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง โดยมันได้พุ่งอยู่ในอากาศประมาณ 37 นาทีก่อนที่จะตกลงในทะเลญี่ปุ่น

 

"กองบัญชาการป้องกันอวกาศของอเมริกาเหนือ (NORAD) ประเมินว่าการปล่อยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาเหนือ"
 

ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดี มุนแจ อิน ของเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เรียกประชุมฉุกเฉินของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) ทันที

ขณะที่การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณท้าทายสหรัฐฯเนื่องในวันชาติสหรัฐฯ คือวันที่ 4 กรกฎาคม นั่นเอง

 

ขณะที่ วันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2560 ทางด้านสหรัฐฯและเกาหลีใต้ประกาศว่า กองทัพของทั้งสองประเทศทำการซ้อมรบร่วมกันที่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธรอบใหม่ เมื่อวานนี้ โดยในแถลงการณ์ของทางเกาหลีใต้ระบุว่า การซ้อมรบเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังเกาหลีเหนือที่กระทำการยั่วยุด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธ

ในขณะที่ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ของกองทัพสหรัฐฯเปิดเผยเชื่อว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบครั้งล่าสุดเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปจริงตามที่เกาหลีเหนือกล่าวอ้าง โดยการประเมินก่อนหน้านี้ของสหรัฐฯชี้ว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง แต่หลังจากที่วิเคราะห์ใหม่อีกครั้งก็เชื่อมั่นว่า ขีปนาวุธครั้งนี้เป็น ขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ไอซีบีเอ็ม ซึ่งถูกยิงไปไกลกว่า 900 กิโลเมตร ก่อนที่จะไปตกในทะเลทางฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น

ส่วนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากล่าวประณามอย่างรุนแรงที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป โดยเรียกว่าเป็น ภัยคุกคามครั้งใหม่ต่อสหรัฐฯ, พันธมิตรของสหรัฐฯ, ภูมิภาค และทั้งโลก พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามครั้งนี้

 

 

ขณะที่ทางด้าน รัฐบาลรัสเซียและจีนร่วมมือกันดำเนินความพยายามทางการทูตในอันที่จะคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีอันเนื่องมาจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ดังนั้นจีนจึงเสนอแผนที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤตบนคาบสมุทรเกาหลี แต่ทั้งเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาจะต้องลงนามในแผนการนี้ ซึ่งกำหนดไว้ว่า เกาหลีเหนือจะต้องระงับโครงการขีปนาวุธทั้งหมด ขณะที่สหรัฐอเมริกากับเกาหลีใต้ก็จะต้องพร้อมใจกันระงับการซ้อมรบขนาดใหญ่ ซึ่งหากความเคลื่อนไหวสองเรื่องนี้เป็นผล ก็จะปูทางไปสู่การเจรจาหลายฝ่าย

แผนการริเริ่มนี้เกิดขึ้นในแถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียและจีนหลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนผู้เดินทางมาเยือนกรุงมอสโก ได้ร่วมกันหารือกันในหลากหลายประเด็นด้วยกัน

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า สถานการณ์ในภูมิภาคสะท้อนให้เห็นถึงผลประโยชน์แห่งชาติของทั้งสองประเทศ ดังนั้น รัสเซียกับจีนจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อนำไปสู่การหาทางออกของปัญหาที่ซับซ้อนของคาบสมุทรเกาหลีในทุกวิถีทางที่ทำได้

วันเดียวกันนี้ เกาหลีเหนืออ้างว่า ประสบผลสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าอาจยิงไปได้ไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา