รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่าพันธมิตรของวอชิงตันในตะวันออกกลางสนับสนุนการก่อการร้าย

     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่าพันธมิตรของวอชิงตันในตะวันออกกลางสนับสนุนการก่อการร้าย , Mohammad Javad Zarif  กล่าวกับทาง CNN แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายต่อต้านอิหร่านของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์
     Zarif กล่าวว่า จุดยืนของทรัมพ์ต่ออิหร่าน ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาของกรุงเตหะรานที่สนับสนุนการก่อการร้าย แสดงถึงนโยบายที่ผิดพลาด


 “เรารู้ว่าผู้ก่อการร้ายมาจากไหน เรารู้ว่าคนที่โจมตีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์คือพลเมืองของประเทศใดในภูมิภาคนี้ และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่าไม่มีพวกเขาคนไหนที่มาจากอิหร่าน” Zarif กล่าว

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเสริมว่า “ไม่มีใครซักคนที่กระทำการก่อการร้ายตั้งแต่ปี 2001 มาจากประเทศอิหร่าน” และชี้ว่า "ส่วนใหญ่มาจากประเทศพันธมิตรสหรัฐ”

    จากผู้ก่อการร้าย 19 คนที่แย่งชิงเครื่องบินเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 สิบห้าเป็นพลเมืองซาอุดิอาราเบีย  สองคนมาจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคนที่เหลือเป็นชาวอียิปต์และชาวเลบานอน

     “ดูที่ ISIS [Islamic State, IS] ดูที่ Nusra [Al-Nusra] ดูที่ Al-Qaeda ดูที่องค์กรก่อการร้ายอื่นๆสิ พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิหร่านเลย แต่ พวกเขาทั้งหมดไม่เพียงได้รับแค่อุดมการณ์เท่านั้น แต่รวมถึงความช่วยเหลือทางด้านการเงิน อาวุธ แขนขาของพวกเขาจากคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นพันธมิตรของสหรัฐ” Zarif กล่าว

 

 

 

 

 

 

 

    ทรัมพ์ตีตราว่าอิหร่านเป็นผู้สนับสนุนหลักของการก่อการร้ายในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของเขา
    ในระหว่างที่เขาเดินทางไปเยี่ยมซาอุดิอาระเบียในเดือนพฤษภาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า “จนกระทั่งระบอบการปกครองของอิหร่านจะยินดีที่จะเป็นพันธมิตรเพื่อสันติภาพ ทุกประเทศจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อแยกอิหร่านออกไป” 
    Zarif ปฏิเสธคำพูดของผู้นำสหรัฐฯว่า "น่ารังเกียจ"  และพูดต่อว่า " ชาวอิหร่านต่อต้านกับสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่ได้รับการสนับสนุนจากฝั่งสหรัฐฯ"
    สหรัฐกล่าวหาว่ากรุงเตหะราน (เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน) สนับสนุนกลุ่มของ Shia ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ รวมทั้ง Hamas ใน Palestine และ the Houthis  ใน  Yemen
    Zarif ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาจากกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาว่าอิหร่านได้ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ และชี้ให้เห็นว่าสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบข้อตกลง ได้ตรวจสอบว่ากรุงเตหะรานได้รับการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในโครงการนิวเคลียร์ของตน
    Zarif กล่าวว่า วอชิงตันละเมิดส่วนหนึ่งของข้อตกลงโดยการเรียกร้องให้รัฐอื่นๆไม่ทำธุรกิจร่วมกับกรุงเตหะราน