- 22 ก.ค. 2560
การซ้อมรบประจำปี ระหว่างกองทัพเรือจีน และรัสเซีย ได้จัดขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 แต่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ ทั้งสองได้ย้ายการซ้อมรบมาบริเวณทะเลบอลติก
การซ้อมรบประจำปี ระหว่างกองทัพเรือจีน และรัสเซีย ได้จัดขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 แต่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ ทั้งสองได้ย้ายการซ้อมรบมาบริเวณทะเลบอลติก การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ทางนาโต ต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งการซ้อมรบครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคม นี้
ทาสส์นิวส์ รายงานข่าว กรณีกองทัพเรือจีน ได้ส่ง เรือพิฆาต เรือฟริเกตและเรือสนับสนุนของจีน จำนวน 3 ลำ เข้าร่วมซ้อมรบ กับทางด้านกองทัพเรือรัสเซีย นอกชายฝั่งคาลินินกราด ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างโปแลนด์ และลิทัวเนีย โดยเรือพิฆาตจีนเหอเฝ่ยเป็นเรือไทป์ 052D รุ่นใหม่ ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธ ส่วนรัสเซียส่งเรือคอร์เวตต์รุ่นใหม่ 2 ลำ เรืออื่นๆจำนวนหนึ่งและเครื่องบินทหารเข้าร่วมซ้อมรบ ซึ่งมีแผนฝึกฝนปฏิบัติการต่อต้านเรือดำน้ำและต่อต้านเรืออื่นๆ รวมถึงซ้อมภารกิจกู้ภัย
การซ้อมรบประจำปี ระหว่างกองทัพเรือจีน และรัสเซีย ได้จัดขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 แต่ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ ทั้งสองได้ย้ายการซ้อมรบมาบริเวณทะเลบอลติก การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ทางนาโต ต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งการซ้อมรบครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคม นี้
ขณะที่กลุ่มนาโต ที่นำโดยสหรัฐฯ ได้เสริมกองกำลัง และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าประจำการในแถบประเทศบอลติก อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย และ ลิทัวเนีย โดยการกล่าวอ้างว่ากลัวการรุกรานจากรัสเซีย
ด้านกองทัพสหรัฐฯ ได้มีการส่งระบบจรวดต่อต้านอากาศยานพิสัยไกล แพทริออต เป็นระบบป้องกันที่ทันสมัย ได้ถูกส่งออกไปยังคาบสมุทรบอลติกที่รัสเซีย ที่มีอิทธิพลเหนือน่านฟ้า เมื่อ แพทริออต ถูกส่งไปยังฐานทัพอากาศในลิทัวเนีย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่จะมีการซ้อมรบทางทหาร โทบรุค เลกาซี จะเริ่มต้นขึ้น และระบบจรวดต่อต้านอากาศยานนี้จะถูกถอดออกไปเมื่อการซ้อมรบสิ้นสุดลงในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมลิทัวเนียกล่าวว่า การที่สหรัฐฯส่ง แพทริออต มาติดตั้งในลิทัวเนียและคาบสมุทรบอลติก สำหรับการซ้อมรบเป็นครั้งแรก เป็นสัญญาณว่าลิทัวเนียจะมีระบบป้องการทางอากาศ เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้ในสถานการณ์จริง
นอกจากนี้ การครอบครองระบบจรวดต่อต้านอากาศยานพิสัยใกล้ ของประเทศลิทัวเนีย ประเทศลัตเวีย และประเทศเอสโตเนีย นั้น ไม่ได้หมายความว่าทั้ง 3 ประเทศนี้ มีการป้องกันที่แข็งแกร่งพอในยามสงคราม แต่ยังมีความกังวลถึงศักยภาพในการป้องกันทางอากาศ หลังจากที่รัสเซียเข้ายึดภูมิภาคไครเมียมาจากยูเครนในปี 2014