วันนี้ความสุขุม นุ่มลึก ของผู้นำรัสเซีย แสดงให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นแล้วว่า แฝงไปด้วย ความเด็ดขาด และชัดเจน อย่างเต็มที่

การประกาศขับนักการทูตสหรัฐฯออกจากรัสเซียในครั้งนี้ เป็นการขับเจ้าหน้าที่ออกจากประเทศจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกขับออกนอกประเทศรัสเซียนั้น มีทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตในกรุงมอสโคว รวมทั้งสถานกงสุลในเมืองเอกาเตรินเบิร์ก, วลาดิวอสต็อค และเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก รวมอยู่ด้วย

แสบถึงทรวง!! รัสเซีย เอาคืน สหรัฐฯ ไล่ทูต 755 คน กลับประเทศทันที พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมด ความสัมพันธ์ ระหว่างมหาอำนาจขาดลงแล้ว

 

วันที่ 29 กรกฎาคม 2560 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทบทวนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ได้รับการรับรองจากในสภาผู้แทนราษฎร
และสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาและวางแผนจะลงนามในข้อกฎหมายดังกล่าว ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทบทวนในก่อนหน้านี้และมีการพูดคุยเกี่ยวกับบทบัญญัติที่สำคัญ ในข้อกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตรวจสอบฉบับสมบูรณ์แล้วและนายโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนที่จะเซ็นชื่ออนุมัติ

 

วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกมายืนยันว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจทางการทูตและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของสหรัฐฯ จำนวน 755 คน จะต้องเดินทางออกจากประเทศรัสเซียภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยที่ผู้นำรัสเซียไม่ต้องการที่จะประกาศมาตรการใด ๆ เพิ่มเติม และคิดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้น นอกจากการประกาศให้เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ยุติภารกิจในรัสเซียแล้ว ยังได้ยึดบ้านพักตากอากาศและโกดังของเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯด้วย

 

การประกาศขับนักการทูตสหรัฐฯออกจากรัสเซียในครั้งนี้ เป็นการขับเจ้าหน้าที่ออกจากประเทศจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกขับออกนอกประเทศรัสเซียนั้น มีทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตในกรุงมอสโคว รวมทั้งสถานกงสุลในเมืองเอกาเตรินเบิร์ก, วลาดิวอสต็อค และเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก รวมอยู่ด้วย

 

การเอาคืนของรัสเซียครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความเจ็บปวดอย่างยิ่งให้กับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้พยายามที่จะพูดคุยกับทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงการคืนสถานะทางการทูต รวมถึงทรัพย์สินทางการทูตของรัสเซีย ในสหรัฐฯ หลังจากที่ทางด้าน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ดำเนินการยึด และ ขับไล่ทูตสหรัฐฯ กลับ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นวันที่ 29 ธันวาคม 2559 เมื่อ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวหาว่ารัสเซีย เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยแถลงมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วงต่อเหล่าหน่วยงานข่าวกรองของของรัสเซีย ขับไล่เจ้าหน้าที่ด้านการทูตและสั่งปิดที่ตั้งด้านการทูตรัสเซียในแผ่นดินอเมริกา ทางด้านรัสเซียนั้น ก็ตอบโต้ทันที ว่าทางด้านสหรัฐฯ เตรียมรับมือกับมาตรการที่เด็ดขาดเช่นกัน พร้อม กับ เย้ยอีกว่า อีกไม่นานเดโมแครตก็จะพ้นจากตำแหน่ง

ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวหา วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการโดยตรงเจาะระบบของพรรคเดโมแครต ทำให้นางฮิลลารี คลินตัน แต่การเลือกตั้ง ที่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่ามีความได้เปรียบต่อทางด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน แต่หลังจากผลการนับคะแนนออกมาแล้วปรากฏว่า ไม่เป็นอย่างที่คาดกันไว้

ทางด้านหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯมีข้อสรุปว่าการแฮกระบบและเผยแพร่อีเมล์พรรคเดโมแครตและทีมหาเสียงของนางฮิลลารี คลินตัน มีเป้าหมายเพื่อผลักดัน ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชื่นชม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำสหรัฐฯ

มาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย ช่วง 3 สัปดาห์ก่อนที่ทางนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง

 

 

แสบถึงทรวง!! รัสเซีย เอาคืน สหรัฐฯ ไล่ทูต 755 คน กลับประเทศทันที พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมด ความสัมพันธ์ ระหว่างมหาอำนาจขาดลงแล้ว

 


บารัค โอบามา กล่าวว่า "ผมออกคำสั่งให้ดำเนินการต่างๆตอบโต้การคุกคามก้าวร้าวต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯของรัฐบาลรัสเซีย และปฏิบัติการทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเล่นงานศึกเลือกตั้งอเมริกา มาตรการนี้มีขึ้นตามหลังคำเตือนที่เราได้แจ้งกับรัฐบาลรัสเซียทั้งแบบเป็นส่วนตัวและต่อสาธารณะหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเราจำเป็นต้องตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อความพยายามทำร้ายผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ด้วยพฤติกรรมที่ละเมิดต่อบรรทัดฐานระหว่างประเทศ"

 


มาตรการที่แถลงออกมา รวมถึงมาตรการลงโทษหน่วยข่าวกรอง เอฟเอสบีและจีอาร์ยูของรัสเซีย กำหนดให้เจ้าหน้าที่ทูตมอสโก 35 คนเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และปิดที่ทำการด้านการทูตรัสเซีย 2 แห่งในนิวยอร์กและแมรีแลนด์ ที่ทางสหรัฐฯอ้างว่าใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านข่าวกรอง


ทางด้านสหรัฐฯ ได้กล่าวหาศูนย์อำนวยการข่าวกรองหลักของกองทัพรัสเซีย (GRU) เจาะข้อมูลโดยมีเจตนาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยมีสำนักงานความมั่นคงกลาง(FSB) คอยช่วยเหลือ

ทั้งสองหน่วยงานจะเจอมาตรการคว่ำบาตร เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของ GRU จำนวน 4 ราย ในนั้นรวมถึง อิกอร์ วาเลนติโนวิช โคโรบอฟ หัวหน้าศูนย์ข่าวกรองแห่งนี้ ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลังอเมริกา ได้กำหนดมาตรการลงโทษบุคคลอื่นๆอีก 2 ราย ได้แก่ เอฟกินีย์ มิคาอิโลวิช โบกาเชฟ และ อเลคเซย์ อเลคเซเยวิช เบลาน

มาตรการดังกล่าวจะรวมถึงการอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ของพวกเขาในสหรัฐฯ และห้ามภาคธุรกิจสหรัฐฯคบค้ากับพวกเขา
 

 

 

สหรัฐฯระบุว่าโดยรวมแล้ว มีผู้ปฏิบัติการข่าวกรองรัสเซีย 35 คน ซึ่งประจำอยู่ในสถานทูตรัสเซียประจำวอชิงตันและสถานกงสุลในซานฟรานซิสโก ถูกประกาศให้เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ และได้รับคำสั่งให้ออกนอกอเมริกาภายใน 72 ชั่วโมง
 

แสบถึงทรวง!! รัสเซีย เอาคืน สหรัฐฯ ไล่ทูต 755 คน กลับประเทศทันที พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมด ความสัมพันธ์ ระหว่างมหาอำนาจขาดลงแล้ว

 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เสนอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขับนักการทูตชาวอเมริกัน 31 คนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก และอีก 4 คนจากสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยหากได้รับการอนุมัติภายในวันนี้ นักการทูตชาวอเมริกันทั้ง 35 คนต้องเดินทางออกจากรัสเซียพร้อมครอบครัว "ภายใน 48 ชั่วโมง" หรือภายในวันที่ 1 มกราคม 2560

 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ ยังได้เสนอให้ ทางด้านผู้นำรัสเซีย สั่งห้ามนักการทูตชาวอเมริกันและครอบครัวเข้าไปใช้บ้านพักตากอากาศ ที่เมืองเซเรบริยานี บอร์ ชานกรุงมอสโก และการใช้บริการโกดังสินค้าที่ตั้งอยู่บนถนนโดรอซห์นายา ในกรุงมอสโกด้วย หลังรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งปิดอาคาร 2 แห่งที่เป็นทรัพย์สินของรัสเซีย ในนครนิวยอร์กและรัฐแมริแลนด์

 

จำนวนนักการทูตของสหรัฐฯ ที่ทางด้าน รมว.ต่างประเทศรัสเซีย เสนอ ให้เดินทางออกจาก กรุงมอสโก นั้นเท่ากับที่ทางสหรัฐฯ ดำนเนินการ ให้ออกจากสหรัฐฯ ภายใน 72 ชั่วโมง ตามมาตรการคว่ำบาตรของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งต้องการ ลงโทษ รัสเซีย ด้วยการกล่าวหาว่าโจมตีทางไซเบอร์เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน ชนะนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนของพรรคเดโมแครต

 

 

 

ส่วนทางด้านทำเนียบรัฐบาลรัสเซีย ได้ แพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ว่าแน่นอนรัสเซียมีความชอบธรรม ในการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ขับนักการทูตชาวรัสเซีย 35 คนนอกประเทศ ภายใน 72 ชั่วโมง และสั่งปิดอาคาร 2 แห่งในนครนิวยอร์กและรัฐแมริแลนด์ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลรัสเซียบนแผ่นดินสหรัฐฯ

 

แต่ทางด้านรัสเซียจะไม่ตามเกมด้วยการใช้วิธีการแบบเดียวกัน ดังที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมา นั่นคือการขับนักการทูตชาวอเมริกันในจำนวนที่เท่ากัน และการสั่งปิดหรือห้ามเจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ เข้าถึงสถานที่อีก 2 แห่ง ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์การตอบโต้ในแบบสงครามเย็น โดยจะมุ่งมั่นฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดต่อไป ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนปิดท้ายด้วยการอวยพรปีใหม่ให้แก่บารัค โอบามาและครอบครัว

 

ขณะที่เที่ยวบินพิเศษของรัฐบาลรัสเซียนำนักการทูตและเจ้าหน้าที่การทูตชาวรัสเซีย 35 คน พร้อมสมาชิกในครอบครัวอีก 51 คน รวมเป็น 96 คน เดินทางออกจากท่าอากาศยานในรัฐเวอร์จิเนีย เมื่อวันที่ 1 มกราคม ซึ่งอยู่ภายในเส้นตาย 72 ชั่วโมงตามคำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งมีคำสั่งเนรเทศนักการทูตกลุ่มนี้พร้อมครอบครัวเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการข่าว"แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการโจมตีทางไซเบอร์

 

ผู้นำรัสเซีย ไม่ได้ตอบโต้การกระทำของ ผู้นำสหรัฐฯ แบบเดียวกัน แต่ใช้วิธีการด้วยการปฏิเสธเนรเทศนักการทูตชาวอเมริกันในจำนวนที่เท่ากันตามการเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศ แต่รัสเซียต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯชุดต่อไป ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชื่นชมผู้นำรัสเซียว่าเป็นคนที่ฉลาดที่ตอบโต้ บารัค โอบามา แบบสุขุม นุ่มลึก

วันนี้ความสุขุม นุ่มลึก ของผู้นำรัสเซีย แสดงให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นแล้วว่า แฝงไปด้วย ความเด็ดขาด และชัดเจน อย่างเต็มที่ ถึงเวลานี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ คงจะรู้สึกแสบไปถึงทรวง เมื่อเจอ ปูติน เอาคืนแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้