มุนแจอิน ปธน.เกาหลีใต้ ยัน ไม่ได้ต้องการล้มล้างเกาหลีเหนือ พร้อมช่วยเหลือหากเลือกเจรจา

จากกรณี ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนกลางเวทีประชุมสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นว่า สหรัฐฯจะทำลายเกาหลีเหนือจนสิ้นซาก จนกว่าเกาหลีเหนือยอมถอยหลังจากความท้าทายทางนิวเคลียร์ โดย โดนัลด์ทรัมป์ ย้ำว่าคงไม่มีทางเลือกอื่นๆนอกเหนือจากทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซากนอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯยังเรียกร้องเหล่าประเทศสมาชิกของสหประชาชาติร่วมมือกันในการโดดเดี่ยวรัฐบาลคิม จองอึน จนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมยุติพฤติกรรมที่กำลังดำเนินอยู่

 

ขณะที่ทางด้านรัฐบาลคิวบาออกมาตำหนิประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ ว่าพูดจาไม่ให้เกียรติ รับไม่ได้ และก้าวก่ายหลังถูก นายโดนัลด์ทรัมป์ ด่ากลางเวทีสหประชาชาติว่าเป็นชาติที่ขี้โกงและบ่อนทำลายพร้อมย้ำชัดว่าคิวบาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปริศนาที่ทำให้นักการทูตอเมริกันในกรุงฮาวานาล้มป่วย
ทางด้านนาย ลี ยอง โฮ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือ  ได้ออกมาตอบโต้กรณี คำกล่าวสุนทรพจน์ของ ‘นายโดนัลด์ทรัมป์’ ว่าเป็นเพียงเสียงสุนัขเห่าหอน โดยที่นาย ลี ยอง โฮ มีกำหนดการณ์กล่าวสุนทรพจน์ต่อ ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันศุกร์นี้
22 กันยายน 2560 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เกาหลีเหนือ (DPRK) เผยแพร่แถลงการณ์จากผู้นำสูงสุด นายคิม จอง อึน ระบุคำมั่นว่าเกาหลีเหนือจะตอบโต้คำขู่ทำลายกรุงเปียงยางของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ได้กล่าวไว้ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ขณะที่ด้านมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวกับที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติว่า “ความพยายามทั้งหมดของเราล้วนทำเพื่อป้องกันการเกิดสงครามและเพื่อรักษาสันติภาพ สถานการณ์โดยรอบของปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือต้องจัดการอย่างมีเสถียรภาพเพื่อไม่ให้เพิ่มความตึงเครียดจนมากเกินไป หรือเกิดการปะทะของกองทัพโดยไม่ได้เจตนา ซึ่งจะนำไปสู่การทำลายสันติภาพ”

 

“เราทั้งหมดควรเตือนตัวเองถึงคำพูดที่อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนเคยกล่าวไว้ ‘สันติภาพไม่ใช่การปราศจากความขัดแย้ง แต่เป็นความสามารถที่จะจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธี’”

มุนแจอินให้คำมั่นไว้หลายประการว่า “เราไม่ได้ต้องการล้มล้างเกาหลีเหนือ เราไม่ได้ต้องการรวมชาติโดยการดูดกลืนชาติหรือโดยวิธีการจอมปลอม หากเกาหลีเหนือตัดสินใจจะยืนอยู่บนข้างที่ถูกต้องในประวัติศาสตร์ แม้จะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ก็ตาม เราก็พร้อมจะร่วมกับประชาคมโลกเพื่อช่วยเหลือเกาหลีเหนือ”
เขาเสริมว่า จิตวิญญาณขององค์การสหประชาชาติคือการสร้างสันติภาพของโลกผ่านการเจรจาหลายฝ่าย และคาบสมุทรเกาหลีก็กำลังต้องการจิตวิญญาณนั้นอย่างมากที่สุด “เราต้องการให้สหประชาชาติมีบทบาทมากขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี บทบาทที่เราต้องการให้สหประชาชาติทำมากที่สุดวันนี้ก็คือการออกมาตรการขั้นพื้นฐานเพื่อยุติวงจรอันเลวร้ายของการยกระดับการยั่วโทสะและการคว่ำบาตร”

มุนแจอินเร่งให้เกาหลีเหนือ “ยุติการตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิดซึ่งอาจนำไปสู่การโดดเดี่ยวชาติตัวเองและการล่มสลาย แล้วหันมาเลือกหนทางของการเจรจาโดยทันที”
“ผมขอให้เกาหลีเหนือยุตินโยบายการเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศอื่นๆ และยุติโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ด้วยหนทางที่สามารถพิสูจน์ได้และไม่มีการฟื้นฟูอีก” มุนแจอินกล่าวว่า “นานาชาติต้องตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างเข้มแข็งและเข้มงวดจนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ด้วยตนเอง ทุกชาติจะต้องบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโดยสมบูรณ์ และมองหามาตรการใหม่หากเกาหลีเหนือกระทำการปลุกปั่นใดๆ อีก”