- 24 ต.ค. 2560
โครงการในพระราชดำริบ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สำนักข่าวเอพี ได้เผยแพร่โครงการในพระราชดำริบ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวเอพี ได้รับฟังจากชาวบ้านว่า ในหลวง ร.๙ ท่านทรงทำให้ชาวบ้าน บ้านห้วยห้อม มีไฟฟ้า และถนน เชื่อมต่อเข้ามายังหมู่บ้านของพวกเขา เดิมนั้นเวลาจะเข้าไปในเมืองจะต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 8 ชั่วโมง กว่าจะถึงถนนที่ใกล้ที่สุด ขณะที่ในเรื่องการเกษตร พระองค์ท่านทรงนำความรู้เรื่องของการปลูกกาแฟ มาให้กับชาวบ้าน บ้านห้วยห้อม จนทำให้ผลผลิตของชาวบ้านนั้นได้มาตรฐานระดับสูง จนปัจจุบันมีลูกค้ารายสำคัญนั่นก็คือ สตาร์บัค นอกจากนั้นแล้วพระองค์ ยังได้ช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแกะ ทอผ้าขนสัตว์ ซึ่งที่ผ่านมาขาดแคลนในประเทศไทย
สื่ออย่างเอพี ยังได้รายงานข่าวต่อว่า ทางด้าน กำชัยสวรรค์กิจสมบูรณ์ จึงได้พยายามที่จะเดินทางด้วยระยะทางกว่า 750 กิโลเมตร เพื่อมายังกรุงเทพมหานคร จุดหมายคือพระบรมมหาราชวัง และต้องต่อแถวนานกว่า 13 ชั่วโมงเพื่อเข้ากราบพระบรมศพ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
เอพี ยังได้รายงานว่า ตลอดการครองราชย์ 70 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์อุทิศพระวรกาย ในการดำเนินโครงการในพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เช่นเดียวกับที่บ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติชาวกะเหรี่ยง มีกลุ่มมิชชันนารีโดย ริชาร์ด แมนน์ เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และได้สอนให้ชาวบ้านรู้จักกับกาแฟ และสอนวิธีการปลูกกาแฟ เพื่อให้ชาวบ้านจะได้เลิกปลูกยาเสพติด และการค้ามนุษย์ จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จมา ทำให้ชาวบ้าน บ้านห้วยห้อมจึงได้รับการช่วยเหลือต่อ และยกระดับเกิดเป็นโครงการในพระราชดำริ ทำให้กาแฟที่ปลูกถูกส่งขายทั้งในและต่างประเทศ มีการแปลรูปแบบครบวงจร ตั้งแต่ปลูก คั่ว บด นอกจากนั้นผลิตผลจากการเลี้ยงแกะนำมาทอผ้าขนสัตว์ ก็กลายเป็นสินค้าโอท็อปขึ้นชื่อ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ทางด้านหม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ดูแลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางด้านสำนักข่าวเอพีว่า ทางด้านมูลนิธิชัยพัฒนายังคงเดินหน้าสานต่อโครงการในประราชดำริ ต่อไป ผ่านกองทุนรัฐบาลและเงินสนับสนุนอื่นๆ หม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ เชื่อว่า มรดกที่ยั่งยืนที่สุดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสามารถช่วยให้ประเทศยืนหยัดรับมือกับคลื่นเศรษฐกิจโลกได้