- 11 พ.ย. 2560
การประชุมเอเปก ที่ประเทศเวียดนาม และมีการพบปะกันระหว่าง ผู้นำฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กับทางด้าน ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 กรณีการประชุมเอเปก ที่ประเทศเวียดนาม และมีการพบปะกันระหว่าง ผู้นำฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กับทางด้าน ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งทางผู้นำรัสเซีย ได้สอบถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มก่อการร้ายมาอูเต แนวร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอเอส บุกยึดเมืองมาราวี ซึ่งการนี้ ทางด้านผู้นำฟิลิปปินส์ ได้ตอบกลับ ด้วยการขอบคุณผู้นำรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุน ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้สมารถที่จะจัดการยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มก่อการร้ายได้ทันเวลา
ซึ่งนอกจากนั้นแล้วทางด้านผู้นำฟิลิปปินส์ ยังได้สื่อสารกับทางด้านผู้นำรัสเซียว่า ในทำนองที่ว่า ต้องการสร้างกองกำลังทหารและตำรวจที่เข้มแข็ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงสำคัญนักที่เราจะต้องรู้ว่าอะไรที่เรากำลังมองหาอยู่ ในครั้งนี้เราจะซื้ออาวุธจากรัสเซีย
ทางด้านฟิลิปปินส์ เคยสั่งซื้อปืนไรเฟิล จากทางด้านสหรัฐฯ 20,000 กระบอก แต่ทว่าครั้งนั้น วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความกังวลว่า กองทัพและตำรวจของฟิลิปปินส์ จะนำไปใช้กับการปราบปรามยาเสพติด จะทำให้เกิดการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น จากเหตุดังกล่าว จึงได้พยายามถ่วงเวลาในการซื้อขาย จนทำให้ทางด้านผู้นำฟิลิปปินส์นั้นไม่พอใจ และได้ยกเลิกคำสั่งซื้อดังกล่าว และหันไปซื้อปืนจากจีนแทน
หลังจากที่ผู้นำฟิลิปปินส์ เอาใจออกห่างจากสหรัฐฯ ก็หันหน้าเชื่อมความสัมพันธ์กับทางด้าน จีน และ รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ รัสเซียเองได้บริจาค รถบรรทุก และ ปืนไรเฟิล จำนวน 11,000 เพื่อใช้ในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายที่บุกยึดเมืองมาราวี ให้กับทางด้านกองทัพฟิลิปปินส์ มาแล้ว ซึ่งทำให้นำมาใช้ทดแทนอาวุธเก่า ของกองทัพได้ทันเวลา นำมาซึ่งชัยชนะของกองทัพต่อกลุ่มก่อการร้ายนั่นเอง
ในเวลานี้กองทัพฟิลิปปินส์มีทุน 125 พันล้านเปโซ สำหรับปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยในช่วงปี 2018 - 2022 จากการจัดสรรงบประมาณโดยรัฐสภา ซึ่งยังมีการเปิดเผยว่ากองทัพฟิลิปปินส์ กำลังมองหาเฮลิคอปเตอร์ อาวุธเล็ก รวมถึงยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการบรรเทาทุกข์และสนับสนุนด้านมนุษยธรรม อีกด้วย