ประมวลกลิ่นไอสงครามโลกครั้งที่ 3 สาเหตุหลักที่สหรัฐฯ ต้องยก เยรูซาเลม ให้ ยิว บทวิเคราะห์โดย เปรมศักดิ์ จีระแพทย์

ประมวลกลิ่นไอสงครามโลกครั้งที่ 3 สาเหตุหลักที่สหรัฐฯ ต้องยก เยรูซาเลม ให้ ยิว
 

โดย เปรมศักดิ์ จีระแพทย์

23 ธันวาคม 2017

 

 

หัวข้อ เหตุที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

 

 

วาระนี้เปรมศักดิ์จะนำเสนอข้อมูลให้ท่านผู้อ่านทราบว่าก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะถูกองค์การสหประชาชาติต่อต้านเรื่องการสนับสนุนให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในวันที่21ธันวาคม2017นั้นมีเหตุการณ์ที่พอจะทำให้เชื่อได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้อิสราเอลต้องพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาในการเคลื่อนไหวสนับสนุนเร่งให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเพราะองค์การUNESCOภายใต้องค์การสหประชาชาติ(UN)กระทำเสมือนเลือกปฎิบัติ.จึงเป็นเหตุให้สหรัฐอเมริกาสนับสนุนอิสราเอลดังข้อมูลที่จะบรรยายดังต่อไปนี้.

 

ประการแรกคือในวันที่21ธันวาคม2017ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติได้ลงมติ128เสียงให้สหรัฐอเมริกาถอดถอนการยอมรับให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในขณะที่มีเพียง9ประเทศที่คัดค้าน.ในประเด็นข้างต้นหากจะให้เชื่อมโยงให้เห็นถึงสาเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต้องพิจารณาดูย้อนหลังไปถึงกรณีความเคลื่อนไหวขององค์การUNESCOนับย้อนเวลาจากปัจจุบันไปเพียงไม่กี่ปี องค์การUNเป็นองค์การที่มีเป้าหมายปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพ,ความเป็นธรรมในสังคม,สิทธิมนุษยชนและความมั่นคงของนานาประเทศ.ความร่วมมือประสานทางการศึกษา,วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม.

 

ปัจจุบันUNESCOมีหลักการดำเนินงานด้านสาขาต่างๆดังนี้

1.การศึกษา

2.วิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ

3.สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์

4.วัฒนธรรม

5.การสื่อสารและสาระสนเทศ

นอกจากนี้UNESCOก็จะมีการพิจารณาคัดเลือกสถานที่ในแต่ละประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พิเศษแล้วขึ้นทะเบียนให้เป็น"มรดกโลก"

แต่ทว่าในมุมมองของอิสราเอลพวกเขารู้สึกถึงการถูกเลือกปฎิบัติลำเอียงเข้าข้างชาวPalestineที่มีความขัดแย้งกับอิสราเอลในด้านอาณาเขตดินแดนโดยมีทำเลที่ทับซ้อนกันอยู่ซึ่งมีอดีตประวัติความเป็นมาร่วมกันทั้งสองประชาชาติ..UNESCOมุ่งเน้นจะให้ความสำคัญแก่Palestineมากกว่าอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำเลบริเวณที่เรียกว่าHebron Old Cityในบริเวณดินแดนฝั่งตะวันตก(West Bank)

ซึ่งมีอดีตประวัติที่ยาวนานเป็นเวลามากกว่า3000ปีก่อน

คริสตศักราช ซึ่งอิสราเอลถือว่ามีความสำคัญมากกว่าและ

ยาวนานกว่าปาเลสไตน์กล่าวคือเคยเป็นสถานที่ฝังศพของอับราฮัม,อิสอัคและยาโคบรวมทั้งภรรยาของบรรพชนทั้ง3..

แต่UNESCOกลับไปให้น้ำหนักว่าเชื่อมโยงกับโลกมุสลิมและPalestineในด้านที่เป็นสถานที่ตั้งสุเหร่า Ibrahimi mosque ด้วยเหตุนี้สหรัฐอเมริกาจึงหยุดสนับสนุนการเงิน

UNESCOตั้งแต่ปี2011อันเป็นช่วงที่นายBarackObamaเป็นประธานาธิบดี จวบจนถึงช่วงวาระที่นายDonaldTrump ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเขาจึงให้สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากสมาชิกภาพของUNESCOในวันที่12ตุลาคม2017 ทั้งนี้จะมีผลบังคับในสิ้นปี2018 สำหรับอิสราเอล

นั้น นายBenjamin Netanyahuคงจะมีการถอนตัวออกจาก

การเป็นสมาชิกUNESCOเพราะผู้ที่มีส่วนได้รับผลโดยตรง จากการนี้ก็คือ Israel ที่จะสร้างวิหารศาสนสถานของตน

ขึ้นโดยไม่ต้องมีข้อบังคับใดๆจากUNESCOอีกต่อไป...

 

 

คงพอจะจับประเด็นกันได้เกี่ยวกับการที่นายDonald Trump ได้มีประกาศรับรองให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง

ของอิสราเอลนั้นก็เพื่อจะก้าวสู่การสร้างวิหารศาสนสถานที่รวดเร็วขึ้นในที่สุดนั่นเอง.และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่3 อันแท้จริง

ขอชี้แจงว่าบทความนี้ มิได้เป็นการชี้นำให้ฝักใฝ่หรือเอาใจ

ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ว่าจะเป็นยิวหรือมุสลิมเนื่องจากไม่ได้มีผลประโยชน์แต่อย่างใดจากทั้งสองฝ่ายเป็นแต่การเพียงนำเสนอข้อมูลเพื่อประสงค์จะช่วยผู้ที่เกาะติดและรับทราบข้อมูลมาเป็นระยะๆจะได้ตระเตรียมตัวรับภัยที่เกิดขึ้นให้ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นภัยของสงครามหรือภัยพิบัติจากธรรมชาติ

 

เปรมศักดิ์ จีระแพทย์

23 ธันวาคม 2017