รัสเซีย แฉ อีกสหรัฐฯ ซุ่มฝึกกองกำลังติดอาวุธใหม่ แปลงร่างจากไอเอสเดิม เป็น กองทัพซีเรียใหม่ เพื่อบั่นทอนความมั่นคงรัฐบาลซีเรีย

สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานข่าว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 กรณีทางด้าน พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย ได้ออกมากล่าวหาสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ว่าให้การฝึกฝนอดีตนักรบกุล่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียเพื่อพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศนี้

 

โดยมีการชี้เป้าไปที่ฐานทัพสหรัฐฯ ที่ตันฟ์ ซึ่งเป็นทางหลวงระหว่างชายแดนอิรัก และ ซีเรีย โดยทางด้านประธานคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย ได้ระบุว่า พื้นที่แห่งนี้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่าไม่มีการขัดขวางจากกองทัพสหรัฐฯ แต่อย่างใด

แต่ที่ผ่านมาสหรัฐฯ กลับระบุว่า ฐานทัพตันฟ์ เป็นที่ตั้งชั่วคราวสำหรับการฝึกกองกำลังพิเศษ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส และปฏิเสธมาโดยตลอดว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มก่อการร้าย

 

แต่การเปิดเผยต่อสื่อมวลชนครั้งนี้ของทางด้าน พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย ได้ชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯกำลังฝึกฝนนักรบที่เคยเป็นกลุ่มไอเอส แต่ตอนนี้ก่อร่างสร้างตัวมาใหม่ และเรียกว่ากองทัพซีเรียใหม่ โดยทางพล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ให้ข้อมูลว่าทางรัสเซียมีหลักฐานชัดเจนนั่นคือ ดาวเทียม และ โดรน ได้ตรวจพบกองพันติดอาวุธในฐานทัพแห่งนี้ และกำลังถูกฝึกอยู่ที่นั่น

 

เขากล่าวว่า ดาวเทียมและโดรนของรัสเซียตรวจพบกองพันกลุ่มติดอาวุธที่ฐานทัพของสหรัฐฯ

 

 

การออกมาเปิดเผยข้อมูลลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่ทางรัสเซีย ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าสหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ อาทิเช่น เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 จากกรณีการตรวจพบคลังอาวุธขนาดมหึมาของอาวุธและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการผลิตต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะหุ้มเกราะ ได้ถูกค้นพบในฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสที่ถูกยึดครองในจังหวัดเดอีย์ เอสซอร์

 

 

โดยทางด้านกองทัพซีเรียน ได้ตรวจพบคลังอาวุธขนาดใหญ่ ซึ่งภายในนั้นประกอบไปด้วยอุปกรณ์การผลิดต รวมถึงยานพาหนะหุ้มเกราะ เป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มไอเอสได้ทิ้งเอาไว้ หลังโดนไล่ล่าอย่างหนักจากทางด้านกองทัพซีเรีย และการผนึกกำลังจากทางด้านกองทัพอากาศรัสเซีย ในการเข้าถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในเมืองเดอีย์ เอสซอร์ ต่อเนื่องในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บรรดานักรบเหล่านี้ต้องทิ้งฐานที่มั่นและคลังอาวุธ เพื่อหนีไปยังอีกฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส

 

 

นอกเหนือจากอาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐอเมริกา และ อิสราเอล ทางด้านกองกำลังซีเรียพบว่าผู้ก่อการร้ายยังได้จัดการผลิตอาวุธของตัวเองอีกด้วย