ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ออกมาแถลงตอบโต้ ผู้นำสหรัฐฯ ทันทีเช่นกัน โดยบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรหันไปให้ความสนใจกับคนเร่ร่อน

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว กรณีทางด้าน อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านออกมากล่าวประณาม กรณีความไม่สงบในประเทศว่า ขณะนี้ศัตรูของอิหร่านกำลังสร้างความไม่สงบไปทั่วประเทศ จากเหตุประท้วงที่เกิดขึ้นในประเทศ จนกลายเป็นเหตุจลาจล อยู่ในขณะนี้ทำให้ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 คน นอกจากนั้นทางการยังจับกุมผู้คนไปแล้วหลายร้อย

 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยังได้กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มีกลุ่มบุคคลได้ทำการใช้เครื่องมือของพวกเขา อาทิฯ เงิน ทอง อาวุธ นโยบาย และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นกับประเทศอิหร่าน ซึ่งศัตรูกำลังหาโอกาสในการเข้ามาแทรกซึมโจมตีชาติอิหร่าน
 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง


การประท้วงยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ประกาศจัดการกับผู้ก่อจลาจลและผู้ฝ่าฝืนกฎหมายก็ตาม ในขณะที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ออกมาระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นการประท้วงใหญ่ คล้ายกับปี 2009 เป็นสงครามตัวแทน ต่อต้านชาวอิหร่าน
 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

 


กระทรวงข่าวกรองอิหร่านออกคำแถลงสำทับว่า สามารถระบุตัวผู้ยุยงปลุกปั่นได้แล้วและรัฐบาลจะจัดการบุคคลเหล่านั้นโดยเร็ว ในขณะที่บนโลกออนไลน์ มีการเรียกร้องให้ชาวอิหร่านเดินหน้าประท้วงใน 50 เมือง ขณะที่รัฐบาลประกาศจำกัดการเข้าถึงแอปรับส่งข้อความ เทเลแกรม และอินสตาแกรม รวมทั้งบล็อกการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือในบางพื้นที่

 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง
 

ในขณะที่ทางด้านพวกนักการเมืองสายปฏิรูปของอิหร่าน ประณามเหตุความรุนแรงที่สั่นคลอนประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดจากศัตรูของอิหร่านนำโดยสหรัฐฯและสายลับของเขา ซึ่งสนับสนุนยุยงพวกก่อปัญหาและพฤติกรรมรุนแรง

โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์อิหร่าน ว่ารัฐบาลอิหร่านเต็มไปด้วยคอร์รัปชั่น นอกจากนั้นแล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้

 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง



ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ออกมาแถลงตอบโต้ ผู้นำสหรัฐฯ ทันทีเช่นกัน โดยบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรหันไปให้ความสนใจกับคนเร่ร่อนและประชาชนผู้หิวโหย ในประเทศของตัวเองน่าจะดีกว่า การมานั่งส่งทวิตเตอร์ที่ไร้ประโยชน์ กับการกล่าวหาประเทศอื่น ทั้งที่ประเทศตัวเองเกิดเหตุฆ่ากันตายรายวัน รวมถึงมีผู้คนเร่ร่อนประชาชนหิวโหยอีกหลายล้านคน
 

ล่าสุดทางด้าน นายไมเคิล ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ ได้ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลในอิหร่านไม่เกี่ยวข้องกับซีไอเอ แต่การเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นผลจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจของอิหร่านที่ไม่ดีอยู่แล้ว และนโยบายถอยหลังลงคลองของรัฐบาลอิหร่าน ที่เพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน

 

 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

คำกล่าวของผู้อำนวยการซีไอเอปฏิเสธข้อกล่าวหาของสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งอิหร่าน ว่าซีไอเอร่วมมือกับอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนกลุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมืองอิหร่านในต่างประเทศ ในการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนครั้งนี้ แต่กล่าวเป็นนัยว่ามีความเป็นไปได้มากที่อิหร่าน อาจเผชิญกับความวุ่นวายอีกครั้ง ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้ระบอบการปกครอง ซึ่งสวนทางกับกระแสโลกและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

 

สหรัฐฯ แสดงท่าทีสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในอิหร่านอย่างเปิดเผย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องตัดสินใจอีกครั้งภายในช่วงกลางเดือนนี้ เนื่องจากครบกำหนด 90 วัน ในการที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องส่งรายงานต่อสภาคองเกรส ว่าอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2558 หรือไม่
 

ผอ.ซีไอเอ สหรัฐฯ พูดเป็นนัย “อิหร่าน อาจจะเจอความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากนี้” หรือ สหรัฐฯ คือตัวการปั่นสถานการณ์จลาจลอิหร่านจริง

 

ขณะที่ทางด้านกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หรือไออาร์จีซี ออกแถลงการณ์ย้ำว่าสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ซาอุดีอาระเบีย และ ขบวนการไซออนิสต์ ที่หมายถึงอิสราเอล สมคบคิดกันสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนและวุ่นวายในประเทศ ที่ยืดเยื้อนานเกือบ 2 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่