- 24 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.gninternews.com
จากสถานการณ์ การสู้รบ และการแบ่งฝ่ายที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เป็นเรื่องที่น่าศึกษาและเรียนรู้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางด้านการทหาร การค้า และ การเมือง ที่มีเรื่องให้ค้นหา และทำความเข้าใจ ไม่รู้จบ เคยวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ ในตะวันออกกลางว่า วันนี้สหรัฐฯ นั้นพ่ายแพ้ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในตะวันออกกลาง ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ ให้กับรัสเซีย และจีน
จากสถานการณ์ การสู้รบ และการแบ่งฝ่ายที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เป็นเรื่องที่น่าศึกษาและเรียนรู้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางด้านการทหาร การค้า และ การเมือง ที่มีเรื่องให้ค้นหา และทำความเข้าใจ ไม่รู้จบ เคยวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ ในตะวันออกกลางว่า วันนี้สหรัฐฯ นั้นพ่ายแพ้ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในตะวันออกกลาง ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ ให้กับรัสเซีย และจีน ถ้าดูตามภูมิศาสตร์แล้ว ผู้ที่ยึดกุมปากอ่าว เกาะแก่งต่าง ๆ ในยามทำสงครามมักจะถือครองความได้เปรียบเอาไว้ได้เสมอ และตะวันออกกลาง ก็ไม่ต่างจากภูมิศาสตร์ในส่วนอื่น ๆ ของโลก ภูมิภาคแห่งนี้มีพื้นที่อ่าวสำคัญ ๆ อยู่ด้วยกัน ทะเลดำ , ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน , ทะเลแดง และ อ่าวเปอร์เซีย ซึ่งทั้งหมดเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคแห่งนี้
วันนี้จะพาทุกคนไปชี้ให้เห็นความสำคัญของทะเลดำ ที่เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ ที่ทางรัสเซีย และ สหรัฐฯ ต่างหวังที่จะครอบครองพื้นที่แห่งนี้ คำถามว่าเพื่ออะไร??
วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน ถ้าพูดถึงทะเลดำ ก็คงต้องพูดถึงประเทศตุรกี เป็นหลัง ที่มีพื้นที่ติดกับทะเลดำ เป็นระยะทางยาว ตุรกี เองเป็นประเทศที่อยู่ในสองทวีป คือ ทั้งในเอเชีย และ ยุโรป เชื่อมต่อตะวันออกกลาง เป็นประเทศ ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มนาโต
ตามประวัติศาสตร์นาโตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าความมั่นคงของภูมิภาคแอตแลนติกและตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปจากสนธิสัญญาวอร์ซอ ดังนั้นถ้าดูตามภูมิศาสตร์แล้ว ตุรกี ไม่น่าจะเข้ามาเป็นสมาชิกของนาโต ได้เลย เพราะประเทศที่อยู่ในกลุ่มนาโต คือกลุ่มประเทศที่อยู่ในยุโรปเป็นหลัก แต่มันมีเหตุผล นั่นก็คือ กลุ่มนาโต ต้องการใช้ตุรกีเป็นฐานในการสำหรับนาโตเพราะมันช่วยให้ (พันธมิตร)โจมตีรัสเซียจากทางใต้ก่อนหน้านี้ตุรกีก็ให้ความสำคัญกับกลุ่มนาโต และ สหรัฐฯ อเมริกามาโดยตลอด แต่ทว่า ความบาดหมางก็มาเกิดขึ้น หลังการก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ประธานาธิบดี เรเซฟ เตยิป เออร์โดกัน ของตุรกี เรียกร้องให้ส่งตัว เฟทอุลเลาะห์ กูเลน อดีตอิหม่ามที่ลี้ภัยในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ นานเกือบ 20 ปี ซึ่งทางการตุรกีเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหาร มารับโทษในตุรกี แต่ทางสหรัฐฯ ให้การปฏิเสธ ซึ่งนำถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อผู้นำตุรกี
ตุรกียังได้สั่งระงับการปฏิบัติการฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิก ที่เป็นคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์และมีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ราว 1,500 นาย สำหรับโจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก โดยก่อนหน้านั้นตุรกีได้ตัดระบบไฟฟ้า น้ำประปา รวมทั้งปิดน่านฟ้าเหนือฐานทัพ ขณะที่เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ขอให้ทหารสหรัฐฯในตุรกีเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือสถานการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประธานาธิบดี เรเซฟ เตยิป เออร์โดกัน บอกว่า ท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะต้องเลือกระหว่างความสัมพันธ์กับตุรกี หรือ นายเฟตุลเลาะห์ กูเลน อดีตพันธมิตรของ เออร์โดกัน ซึ่งลี้ภัยในเพนซิลเวเนียมาตั้งแต่ปี 1999
แต่จนถึงเวลานี้สหรัฐฯ ไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ก็เลยกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้ตุรกี เริ่มที่จะแปรพักต์ ให้มาเข้าด้วยกับฝ่ายรัสเซีย แม้ทั้งคู่จะมีปัญหากันในระหว่างการทำสงครามชายแดน ซีเรีย เนื่องจากเครื่องบินรบของรัสเซีย ถูกเครื่องบินรบของตุรกียิงตก แต่ว่าท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถที่จะหันหน้ามาเชื่อมสัมพันธ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
รัสเซียยอมที่จะไม่พูดอะไรมาก ไม่เรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะรัสเซียมีงานสำคัญกว่า ใหญ่กว่า หากได้ตุรกีเข้ามาเป็นพวก นั่นก็คือทะเลดำ คือจุดหมายสำคัญ ที่จะทำให้รัสเซียนั้นได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ที่วางเอาไว้ทันทีในพื้นที่ดังกล่าว
หลังจากนั้นไม่นานสิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ และประเทศสมาชิกนาโต ต้องช็อกไปตาม ๆ กัน ก็เมื่อทางด้านผู้นำตุรกี ออกมาเปิดเผยเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ว่าขณะนี้ทางตุรกีได้ทำการเจรจากับรัสเซีย เพื่อจัดหาระบบป้องกันขีปนาวุธจากพื้นที่อากาศ รุ่นใหม่ล่าสุดของรัสเซีย นั่นคือ S-400 ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทำให้ทางด้านกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุรกี นั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มนาโต แต่หันไปเจรจาซื้อขายระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซีย โดยทางด้านเพนตากอน ให้เหตุผลว่า อาจจะทำให้ระบบดังกล่าวไม่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่บรรดาพันธมิตรของกลุ่มนาโตใช้งานอยู่ ซึ่งทางเพนตากอนยังออกมาเรียกร้องให้ตุรกี ทบทวนเรื่องดังกล่าว พร้อมแนะนำว่าควรจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ จากพันธมิตรในกลุ่มนาโต มากกว่าการซื้อหาจากนอกกลุ่ม แต่ตุรกีไม่สนใจ ...
รัสเซียเดินหน้าสนับสนุนตุรกี ทางด้านการทหารอย่างเต็มที่ ในหลายเรื่องหลายมิติ และที่สำคัญไม่ยุ่งการเมืองภายในประเทศของตุรกี เลยแม้แต่น้อย ก็ทำให้รัสเซีย ได้รับความไว้วางใจจากทางด้าน เออร์โดกัน มากยิ่งขึ้น
คำตอบที่ว่าทำไมรัสเซีย ต้องทำทุกอย่างให้ตุรกี มาเป็นพวก นั่นคือรัสเซียต้องการทะเลดำ และ เอาไว้ทำอะไร ...
พื้นที่ทะเลดำถือเป็นยุทธศาสตร์ใหญ่ทางภูมิศาสตร์ ที่ทางด้านรัสเซีย จะเชื่อมต่อเข้าสู่ยุโรปตะวันออก ได้ง่ายมากขึ้น รัสเซียไม่ต้องการที่จะใช้กองกำลังทหารเข้าสู่ยุโรปแต่อย่างใด แต่รัสเซียต้องการเชื่อมต่อท่อส่งน้ำมันและก๊าซ สู่ยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับรัสเซีย นั่นเอง ในที่สุดรัสเซีย กับตุรกี ได้ตกลงที่จะพัฒนาโครงการตุรกีสตรีม ขึ้นมาเป็นการต่อท่อก๊าซ จากรัสเซีย เข้าสู่ตุรกี และ จากรัสเซีย เข้าสู่ยุโรป
22 มกราคม 2561 กรณีก๊าชพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ได้รับอนุญาตจากทางการตุรกีให้ สร้างท่อส่งก๊าซ สายที่สองในโครงการตุรกีสตรีม ริมชายฝั่งทะเลดำของตุรกี ซึ่งจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยเอาไว้บนเว็บไซต์ พบว่า ระบบท่อส่งก๊าซที่ทางบริษัทพลังงานของรัสเซีย จะดำเนินการต่อท่อสายใหม่ครั้งนี้มีระยะทางกว่า 760 กิโลเมตร
โครงการตุรกีสตรีมคาดการณ์การก่อสร้างท่อส่งก๊าซข้ามทะเลดำไปยังฝั่งยุโรปของตุรกีและต่อไปยังชายแดนประเทศกรีซ ส่วนใต้ทะเลมีระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร เมื่อโดยสายแรกนั้นเริ่มโครงการเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทก๊าซพรอมได้เริ่มก่อสร้างท่อใต้ทะเลมายังตุรกีจากชายฝั่งทะเลของรัสเซีย
สำหรับโครงการต่อท่อก๊าซตุรกีสตรีม นั้นสายแรก จะเป็นการจัดส่งก๊าซมายังตุรกี ส่วนสายที่สองที่จะเริ่มดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการจัดส่งก๊าซไปยังส่วนของภาคใต้ และ ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ทั้งสองสายจะมีกำลังการผลิตเท่ากันที่ 1575 ลบ.ม. / ปี
ซึ่งหากแล้วเสร็จคาดการณ์ว่าทางบริษัทก๊าซพรอมจะสร้างรายได้มหาศาลจากการจัดส่งก๊าซเข้าไปยังประเทศแถบยุโรปต่อไป
นอกจาก ผลพวงที่ตุรกีจะได้รับทางด้านเศรษฐกิจ แล้ว เรื่องความมั่นคง ก็น่าจะส่งผลดีด้วยเช่นกัน เพราะรัสเซีย ก็จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเองในพื้นที่แห่งนี้อย่างเข้มข้นแน่นอน ดังนั้น ถ้ามองในแง่ดี ตุรกีน่าจะได้ประโยชน์ ด้วยเช่นกัน และ ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า เวลานี้ รัสเซียได้เดินตามแผนสำเร็จไปอีกขั้นในการยึดทะเลดำ ใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งก๊าซ เข้าสู่ยุโรป แบบเต็มอัตรา