รัฐบาลสหรัฐฯเปิดทำการต่อ/นัดเจรจางบประมาณอีกที 8 ก.พ.

รัฐบาลสหรัฐฯเปิดทำการต่อ/นัดเจรจางบประมาณอีกที 8 ก.พ.

ผู้นำวุฒิสภาบรรลุข้อตกลงเพื่อให้รัฐบาลเปิดทำการต่อ แล้วค่อยกลับมาเจรจางบประมาณประเทศอีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ. เดือนหน้า หลังประกาศชัตดาวน์เพราะสองพรรคไม่สามารถตกลงกันได้ในกรณีปธน.ทรัมป์ใช้เหล่าดรีมเมอร์ 800,000 คน ข่มขู่สภาให้ปล่อยงบประมาณก่อสร้างกำแพงกั้นพรหมแดน เพื่อแลกกับการไม่ยกเลิกกฎหมาย DACA

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2018 หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ บางส่วน ต้องปิดทำการ หรือ Government Shutdown เนื่องจากทั้งสองพรรคไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องงบประมาณและนโยบายคนเข้าเมือง ล่าสุด (วันนี้ 22 ม.ค. 2018) มีรายงานว่า ผู้นำวุฒิสภาบรรลุข้อตกลงเพื่อให้รัฐบาลกลับมาเปิดทำการ และจะนัดประชุมสภาเพื่อเจรจางบประมาณประเทศอีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ. เดือนหน้า

ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ Shut Down หรือการปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลกลาง เพราะผ่านงบประมาณประจำปีไม่ได้นั้น เกิดจากการขัดแย้งกันเรื่องกฎหมาย The Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) ที่ออกในยุคอดีตปธน.บารัก โอบามา เพื่อให้ความคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่เดินทางมากับพ่อแม่ที่เป็นโรบินฮูด แล้วเติบโตได้รับการศึกษาในสหรัฐฯ ซึ่งบางคนไม่สามารถพูดภาษาของพ่อแม่และไม่รู้จักประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง โดยคาดว่าน่าจะมีถึง 800,000 คนทั่วสหรัฐฯ

โดยพวกเขาเหล่านี้ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย The Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) ในยุคประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ให้สามารถเรียนต่อหรือทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เด็กเหล่านี้เรียกสั้นๆว่า Dreamers เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลกลาง ของสหรัฐฯ มีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกัน โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการที่จะยกเลิกกฎหมาย DACA และส่งเด็กเหล่านี้กลับประเทศเดิม ซึ่งมีจำนวนมากอยู่ในวัยทำงานในสาขาวิชาชีพต่างๆ และที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย (มีคนไทยที่กำลังเรียนแพทย์ อยู่ในกลุ่ม “ดรีมเมอร์”)

พรรคเดโมแครตไม่ยินยอมตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เจรจาต่อรองให้สภาอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงยาว 2,000 ไมล์ (3,218 กิโลเมตร) ตามพรมแดนระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโก เพื่อแลกกับการไม่ยกเลิกกฎหมาย DACA ซึ่งนโยบายการสร้างกำแพงกั้นนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในระหว่างหาเสียงและรับปากจะดำเนินการตามที่ให้สัญญาไว้กับฐานเสียงของเขา

เมื่อรัฐสภาไม่สามารถผ่านงบประมาณประจำปี 2018 ได้ ทำไม่มีงบประมาณที่จะจ่ายให้กับพนักงานที่ทำงานกับรัฐบาลกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้กับรัฐบาลกลางต้องหยุดงาน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ในด้านความปลอดภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน และศาล (ซึ่งจะมีงบดำเนินการไปได้อีก 3 สัปดาห์)  แต่จะไม่มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกับมลรัฐและเมืองต่างๆ ในมลรัฐนั้นๆ เช่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่ของมลรัฐ ยังทำงานตามปกติ

ถึงอย่างไรก็ตามประชาชนที่มีรายได้จากสวัสดิการสงเคราะห์ผู้สูงอายุจากรัฐบาลกลางจะไม่ได้รับเงินประจำเดือน ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องอาศัยยังชีพด้วยเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ ส่วนโรงพยาบาลของรัฐบาลกลาง เช่น โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ยังดำเนินงานตามปกติ แต่แพทย์และพยาบาลอาจได้รับเงินเดือนล่าช้าลง

ล่าสุดสภาจะเปิดการเจรจาอีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ. ที่จะถึงนี้ แต่การเจรจาจะออกมาอย่างไรประชาชนนับล้านที่ได้รับผลประโยชน์จากกฎหมามDACA จะถูกลอยแพหรือไม่? จะมีการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกตามความปรารถนาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่? ยังไม่สามารถคาดเดาได้และต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รับบาลสหรัฐฯ Shut Down มาแล้วหลายครั้งในหลายรัฐบาล รวมทั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2013 ในสมัยของ ปธน.บารัค โอบามา ส่งผลให้พนักงานภาครัฐราว 850,000 ต้องหยุดทำงานไป 16 วันในครั้งนั้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ และโครงการวิจัยต่างๆ

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย อรรคเดช ศรีพิพัฒน์ สยามมีเดีย-ทีนิวส