- 30 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.gninternews.com
สำหรับโครงการต่อท่อก๊าซตุรกีสตรีม นั้นสายแรก จะเป็นการจัดส่งก๊าซมายังตุรกี ส่วนสายที่สองที่จะเริ่มดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการจัดส่งก๊าซไปยังส่วนของภาคใต้ และ ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ทั้งสองสายจะมีกำลังการผลิตเท่ากันที่ 1575 ลบ.ม. / ปี
ซึ่งหากแล้วเสร็จคาดการณ์ว่าทางบริษัทก๊าซพรอมจะสร้างรายได้มหาศาลจากการจัดส่งก๊าซเข้าไปยังประเทศแถบยุโรปต่อไป
ในขณะที่ สหรัฐฯ และ รัสเซีย กำลังแสดงบทบาทของมหาอำนาจของโลกโดยเฉพาะทางทหาร ก็มีเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ เรื่องของผลประโยชน์ของพลังงานที่ทั้งสองประเทศเองก็ถือเป็นผู้ค้าพลังงานรายใหญ่ของโลกเช่นกัน ความเคลื่อนไหว ของการแย่งตลาดพลังงานในยุโรป ระหว่างสหรัฐฯ และ รัสเซีย เหมือนจะระอุมากขึ้น เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 กรณีก๊าชพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ได้รับอนุญาตจากทางการตุรกีให้ สร้างท่อส่งก๊าซ สายที่สองในโครงการตุรกีสตรีม ริมชายฝั่งทะเลดำของตุรกี ซึ่งจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยเอาไว้บนเว็บไซต์ พบว่า ระบบท่อส่งก๊าซที่ทางบริษัทพลังงานของรัสเซีย จะดำเนินการต่อท่อสายใหม่ครั้งนี้มีระยะทางกว่า 760 กิโลเมตร
โครงการตุรกีสตรีมคาดการณ์การก่อสร้างท่อส่งก๊าซข้ามทะเลดำไปยังฝั่งยุโรปของตุรกีและต่อไปยังชายแดนประเทศกรีซ ส่วนใต้ทะเลมีระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร เมื่อโดยสายแรกนั้นเริ่มโครงการเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทก๊าซพรอมได้เริ่มก่อสร้างท่อใต้ทะเลมายังตุรกีจากชายฝั่งทะเลของรัสเซีย
สำหรับโครงการต่อท่อก๊าซตุรกีสตรีม นั้นสายแรก จะเป็นการจัดส่งก๊าซมายังตุรกี ส่วนสายที่สองที่จะเริ่มดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการจัดส่งก๊าซไปยังส่วนของภาคใต้ และ ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ทั้งสองสายจะมีกำลังการผลิตเท่ากันที่ 1575 ลบ.ม. / ปี
ซึ่งหากแล้วเสร็จคาดการณ์ว่าทางบริษัทก๊าซพรอมจะสร้างรายได้มหาศาลจากการจัดส่งก๊าซเข้าไปยังประเทศแถบยุโรปต่อไป
นอกจาก ผลพวงที่ตุรกีจะได้รับทางด้านเศรษฐกิจ แล้ว เรื่องความมั่นคง ก็น่าจะส่งผลดีด้วยเช่นกัน เพราะรัสเซีย ก็จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเองในพื้นที่แห่งนี้อย่างเข้มข้นแน่นอน ดังนั้น ถ้ามองในแง่ดี ตุรกีน่าจะได้ประโยชน์ ด้วยเช่นกัน และ ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า เวลานี้ รัสเซียได้เดินตามแผนสำเร็จไปอีกขั้นในการยึดทะเลดำ ใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งก๊าซ เข้าสู่ยุโรป แบบเต็มอัตรา และที่สำคัญเหมือนกับเป็นการตบหน้าสหรัฐฯ แบบกลาย ๆ ที่สามารถ กรุยทางเข้าสู่ยุโรปได้สำเร็จ
และล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และนายจาเซค ซาปูโตวิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์ ได้ออกมาประกาศร่วมกันว่า แนวท่อส่งก๊าซ นอร์ดสตรีม 2 ที่ทางด้านรัสเซีย จะดำเนินการเชื่อมต่อไปยังยุโรปโดยผ่านทางเยอรมนี และยุโรปตะวันตก ซึ่งจะเลี่ยงผ่านโปแลนด์ จะทำให้ยุโรปตอนกลางตกอยู่ใต้แรงกดดันของรัสเซีย
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าการทำโครงการท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ไม่ใช่ระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม สำหรับความมั่นคงทางพลังงานของยุโรป แต่เป็นบ่อนทำลายความมั่นคงทางพลังงานทั้งหมดของยุโรป และที่สำคัญรัสเซีย จะใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
สำหรับโครงการท่อส่งก๊าซ นอร์ดสตรีม 2 จะเป็นแนวท่อส่งก๊าซแนวที่ 2 ที่นำก๊าซจากรัสเซียส่งตรงสู่เยอรมนีและยุโรปตะวันตก โดยผ่านทะเลบอลติก แทนที่จะผ่านโปแลนด์และยูเครน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศในยุโรป ที่มีความขัดแย้งกับรัสเซีย ในขณะที่ทางด้านสหรัฐฯเองก็ได้พยายามที่จะปลุกปั่นให้ประเทศในยุโรปนั้น เลิกใช้ก๊าซจากรัสเซีย ซึ่งสหรัฐฯ อ้างมาโดยตลอดว่า การที่ยุโรปต้องพึ่งพิงก๊าซจากรัสเซียนั้นทำให้
ประเทศเหล่านั้นตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัสเซีย รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือกดดันในกรณีพิพาทกับยูเครน หรือประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิกของนาโต
ขณะที่ทางด้านโปแลนด์เริ่มนำเข้าก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจี จากสหรัฐฯ ในปีนี้ โดยทางด้านเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน กระตุ้นให้มีการซื้อขายมากขึ้น และสนับสนุนการสร้างท่อส่งก๊าซจากโปแลนด์ไปยังนอร์เวย์
ดังนั้นสถานการณ์ ของตลาดพลังงานยุโรป ขณะนี้ระอุเลยทีเดียว เมื่อสองมหาอำนาจต่างก็ต้องการเป็นผู้ครอบครองตลาดใหญ่แห่งนี้