รัฐบาลฟิลิปปินส์ลุกอื้อ ไม่พอใจหนัก หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ "ดูเตร์เต" เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย

วันที่ 22 ก.พ. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จากกรณีที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงาน 17 แห่ง และสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ได้มีการจัดรายงานประจำปีถึงสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผลการรายงานสรุปออกมาว่า นายโรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถือเป็นหนึ่งของภัยคุกคามระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากผู้นำฟิลิปปินส์ ยังคงมีการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการปราบปรามยาเสพติด การคอร์รัปชั่น และอาชญากรรม มีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติแห่งชาติ และการที่รัฐสภาของฟิลิปปินส์มีการอนุมัติขยายเวลาบังคับใช้กฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา จนถึงสิ้นปี 2561 (อ่านข่าวก่อนหน้า : อาจจะถึงเวลารวมหัวกินโต๊ะพญาอินทรีย์!!! หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ "ดูเตร์เต-ฮุนเซน" ถือเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย)

 

ล่าสุด นายแฮร์รี โร้ค โฆษกทำเนียบของฟิลิปปินส์ ได้ออกมากล่าวว่า นายดูเตร์เต เป็นผู้นำที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีแนวคิดการปกครองแบบอัตตาธิปไตย ไม่มีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ และไม่ได้มีความต้องการที่จะจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติแห่งชาติอย่างที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐได้จัดทำรายงานออกมา ขณะที่การทำงานของสื่อมวลชนในประเทศนั้น ทุกสื่อมีการนำเสนอข้อมูลได้อย่างเสรี ไม่เคยแทรกแซงใดๆ

 

นายแฮร์รี โร้ค โฆษกทำเนียบของฟิลิปปินส์

 

นอกจากนี้ นายโร้ค ยังกล่าตำหนิสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐที่จัดทำรายงานนี้ ว่ามีวิสัยทัศน์แคบ ข้อมูลที่มีการรายงานไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

 

นายโรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายดูเตร์เต เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักทั้งในและต่างประเทศว่ามีการคุกคามการทำงานของสื่อ เมื่อเขาเคยสั่งห้ามผู้สื่อข่าวของ "แรปป์เลอร์" สำนักข่าวชื่อดังของฟิลิปปินส์ เข้าทำข่าวภายในทำเนียบ หลังจากที่สื่อใหญ่ของฟิลิปปินส์หลายแห่งมีการนำเสนอข่าวว่า รัฐบาลมีการแทรกแซงข้อตกลงจัดซื้อเรือฟริเกตของกองทัพฟิลิปปินส์ ซึ่งทางด้านนายดูเตร์เตออกมาปฎิเสธอย่างหนักว่าทั้งหมดเป็นข่าวเท็จ

 

.