- 27 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ทูตสหประชาชาติประจำซีเรีย เรียกร้องขอให้มีการหยุดยิงสำหรับระงับการจู่โจมทางอากาศครั้งดุเดือดที่สุดหนหนึ่งในสงครามกลางเมือง 7 ปี เพื่อป้องกันการฆ่าหมู่ในเมืองกูตาตะวันออก
การสู้รบในประเทศซีเรีย เขตกูตาตะวันออก ซึ่งเป็นเขตยึดครองแห่งสุดท้ายของฝ่ายกบฏที่อยู่ชานกรุงดามัสกัส ทางรัฐบาลของประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาด มีความพยายามอย่างหนักในการที่จะยึดพื้นที่คืนและได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดปรากฏว่า ฝูงบินรบยังดาหน้าถล่มดินแดนสุดท้ายของฝ่ายกบฏใกล้เมืองหลวงของซีเรียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเหนือ 520 ศพ และบาดเจ็บกว่า 2,500 ราย ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังพิจารณาข้อเรียกร้องหยุดยิง 30 วันทั่วประเทศ เปิดทางสำหรับมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินและอพยพด้านการแพทย์
ทางด้านสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ทูตสหประชาชาติประจำซีเรีย เรียกร้องขอให้มีการหยุดยิงสำหรับระงับการจู่โจมทางอากาศครั้งดุเดือดที่สุดหนหนึ่งในสงครามกลางเมือง 7 ปี เพื่อป้องกันการฆ่าหมู่ในเมืองกูตาตะวันออก ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏ ซึ่งตั้งอยู่แถบชานกรุงดามัสกัส
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี ออกเสียงเป็นเอกฉันท์วันเสาร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 เพื่อการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันทั่วซีเรีย เปิดโอกาสให้การบรรเทาทุกข์และการอพยพเร่งด่วนทางแพทย์สามารถกระทำได้ หลังพื้นที่กูตาตะวันออกโดนโจมตีทางอากาศต่อเนื่อง ทั้งเมืองมีแต่ควันไฟ เศษอิฐ มีเครื่องบินรบและโดรนวิ่งตลอดทั้งคืน
มีรายงานว่าพบเครื่องบินรบที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเข้าโจมตีชิฟูนิเยห์ อยู่ในส่วนตะวันออกของกูตา เกิดขึ้นไม่กี่นาทีหลังมีมติองค์การสหประชาชาติออกมา ขณะที่ทางด้านตัวแทนประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาดประจำองค์การสหประชาชาติ บาชาร์ จาฟารี ยังยืนยันเสียงแข็งว่า รัฐบาลซีเรียที่ชอบธรรมของเขามีสิทธิ์ปกป้องดินแดนของตัวเอง และจะยังคงต่อสู้กับการก่อการร้าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
ทางองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำการหยุดความเป็นศัตรู และลงมือทำอย่างทันทีเพื่อให้ความมั่นใจว่าข้อเรียกร้องนี้ได้ถูกบังคับจากทุกฝ่าย เพื่อการบรรเทาทุกข์อย่างถาวรเกิดขึ้นเป็นเวลา 30 วันอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศซีเรีย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพื่อให้การให้บริการและส่งการบรรเทาทุกข์ และการอพยพออกมาเพื่อเหตุผลด้านการแพทย์ ไม่ติดขัดและเป็นไปได้อย่างมั่นคง ต่อผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อที่จะมีการเข้าถึงด้านการบรรเทาทุกข์และการอพยพฉุกเฉินทางการแพทย์ในจำนวน 1,244 ชุมชน
จากการตรวจสอบสถานการณ์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาพบว่า สถานการณ์การสู้รบในกูตาตะวันออก ยังมีการเข้าถล่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านซึ่งให้ความสนับสนุนรัฐบาลซีเรียยืนยันการปฏิบัติตามมติของยูเอ็นเอสซี อย่างไรก็ตาม การที่คำสั่งไม่ครอบคลุมกลุ่มก่อการร้ายที่รวมถึงกลุ่มอัลกออิดะห์ และกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล ชาม หรืออดีตกลุ่มอัลนุสรา หมายความว่าปฏิบัติการทางทหารในส่วนนี้จะยังคงดำเนินต่อไป
เช่นเดียวกับท่าทีของรัฐบาลตุรกี โดยนายเบเคียร์ บอซแด็ก รองนายกรัฐมนตรีตุรกี กล่าวว่ามติของยูเอ็นเอสซีไม่มีผลกับปฏิบัติการทางทหารของกองทัพตุรกีในเมืองอาฟรินและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ที่หมายถึงกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด หรือวายพีจี ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากสหรัฐฯ