สหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียม แก่อียูและสมาชิกอีก 6 ประเทศ หลังถูกประณามรุนแรง

วันที่ 23 มี.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เผยกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภาชุดหนึ่งว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มีการประกาศพักใช้อำนาจมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม กับสหภาพยุโรป (EU)และประเทศอื่นๆอีก6 ชาติ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวัน 23 มี.ค. นี้

 

สำหรับอีก 6 ประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25%และอะลูมิเนียม 10% ได้แก่ ประเทศอาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, เม็กซิโก และเกาหลีใต้

 

 

นายไลท์ไฮเซอร์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อียูและสหรัฐฯ ได้เร่งทำงานร่วมกัน เพื่อหาทางออกสำหรับหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีหลายประเทศที่กำลังเจรจาอยู่ และจะมีการพักใช้มาตการเก็บภาษีต่อประเทศเหล่านั้น

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา นายทรัมป์ ได้ประกาศผลักดันขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งได้เรียกเสียงประณามและการขู่ตอบโต้จากนานาชาติ เช่น แคนาดา สหภาพยุโรป (EU) และจีน โดยทางการจีนได้มีการตอบโต้โดยการยกประเด็นความห่วงใยขึ้นถกในองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อม 17 เสียงสมาชิก เรียกร้องให้สหรัฐยุติการผลักดันการตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่จะส่งผลให้สินค้าประเภทดังกล่าวต้องโดนเก็บภาษีร้อยละ 25 และ 20 ตามลำดับ

ขณะที่ทางสหภาพยุโรป ได้เล็งตอบโต้ด้วยมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 25% หรือมูลค่ามากกว่า 2,800 ล้านยูโร หรือ 3,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่นายทรัมป์ เตรียมประกาศใช้นโยบายเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม

 

แต่ทั้งนี้ เป้าหมายของนายทรัมป์ คือ จีน โดยนายทรัมป์ให้ความคิดเห็นว่ากำลังการผลิตล้นความต้องการของจีนส่งผลกระทบต่อตลาดเหล็กและอะลูมิเนียมโลก และเป็นภัยคุกคามความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอเมริกา