มองไปข้างหน้ากับเกาะติดสงครามโลกครั้งที่ 3!! "ตัวต่อตัวถ้าสหรัฐฯ จีน รัสเซีย รบกันใครชนะ"

การเมืองในประเทศมหาอำนาจทั้ง 3 มาถึงจุดลงตัวทุกประเทศไร้ปัญหาเสริมความแข็งแกร่งเบ็ดเสร็จ วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นผู้นำรัสเซียอีก  6 ปี, จีน สี จิ้นผิง ได้รับฉ้นทานุมัติให้เป็นผู้นำต่อไปอีกนาน, ทรัมป์เปลี่ยนม้ากลางศึกดันผู้นำ ซีไอเอเป็น รมต.ต่างประเทศ (อะไรช่างเหมาะเจาะสอดคล้องตรงกันขนาดนี้) อย่างไรก็ตามเกาะติดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้นำเสนอสถานการณ์ทั่วโลกโดยละเอียดมาตลอด ถ้าความตึงเครียดการเผชิญหน้าของมหาอำนาจทั้ง 3 รุนแรงกว่านี้ถึงขั้นต้องรบกันจริง(ขณะนี้ก็เตรียมพร้อมเต็มที่)ใครจะแพ้ใครจะชนะเราลองมาเปรียบเทียบทั้ง3ประเทศว่าใครเหนือใคร

 

โดยทางด้านคุณสัมฤทธิ์ ทองอินทร์ ผู้เขียนหนังสือสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้ข้อมูลว่าต้องพิจารณาในประเด็นหลักๆสำคัญๆดังนี้

 

1. ด้านกำลังทหารสหรัฐมีประมาณล้านสี่แสนคน จีนสองล้านคนเศษ รัสเซียมากกว่าแปดแสนนาย เครื่องบินรบสหรัฐหมื่นกว่าเครื่อง รัสเซียและจีนประเทศละสามพันกว่าเครื่อง เรือดำน้ำจีน 70 สหรัฐ 70 รัสเซีย 60 แต่อาวุธที่สำคัญคือนิวเคลียร์ทุกประเภททั้งยิงจากเรือดำน้ำ เรือรบชนิดต่างๆ ปล่อยจากอากาศยานและยิงจากภาคพื้นดินทุกประเทศยังไม่เปิดเผยแต่ประมาณการได้ว่า สหรัฐมากกว่าหมื่นหัวรบ รัสเซียมากกว่าเจ็ดพันหัวรบ ส่วนจีนไม่เกินสองพันหัวรบ 

 

2. พันธมิตรทางทหาร ณ วันนี้ต้องยอมรับว่าสหรัฐมีมากกว่าใครหลักๆก็คือ กลุ่มนาโต้ยุโรปทั้งทวีปบวกกับพันธมิตรเดิมของสหภาพโซเวียตอีกนอกจากนี้ก็มี ญี่ปุ่นออสเตรเลียเกาหลีใต้แคนาดาอิสราเอล ส่วนรัสเซียและจีนต้องถือว่าพันธมิตรทางทหารยังเป็นรองสหรัฐอีกมาก แต่ที่กำลังเข้มข้นหนักหน่วงคือตะวันออกกลางและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง 3 มหาอำนาจกำลังหาทางดึงไปเป็นพันธมิตรของตนอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นผลให้ประเทศแถบนี้ต้องเร่งพัฒนากองทัพเสริมสร้างอาวุธ มิเช่นนั้นจะตกอยู่ในภาวะอันตรายอย่างมากไม่มีประเทศใดยอมแน่นอน

 

3. ในแง่ของเศรษฐกิจ (กำลังเงิน) ต้องถือว่าจีนได้เปรียบทั้งสหรัฐและรัสเซีย ผลิตบริโภคและขายอย่างเดียว สหรัฐและยุโรปกำลังมีปัญหามาถึงขั้นเป็นหนี้และขาดดุลกับจีน จนต้องประกาศสงครามการค้าอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่จีนไม่สนเดินหน้าทุ่มทุนเพื่อครองโลกต่อไป  จำนวนประชากรจีนมีมากกว่าสหรัฐและรัสเซียรวมกันถึงสามเท่า จีนแค่ระบายพลเมืองสู่ประเทศคู่แข่งก็ได้เปรียบ

4. จำนวนใฐานทัพทั่วโลกต้องยอมรับว่าสหรัฐได้เปรียบทั้งจีนและรัสเซีย เพราะมีฐานทัพกระจายทั่วโลกมากกว่า 500 แห่ง ไม่นับเรือบรรทุกเครื่องบินที่ถือว่าเป็ฐานทัพลอยน้ำ ในขณะที่จีนและรัสเซียกำละเร่งขยายทุกภูมิภาคเช่นกัน

 

 

ทุกประเทศกำลังเร่งผลิตหัวรบนิวเคลียร์เครื่องบินเรือรบขีปนาวุธและปรับปรุงเทคโนโลยีทางทหารตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เป็นรองกันและกัน

สรุป ณ วันนี้ถ้ามหาอำนาจทั้ง 3 จำต้องรบกันด้วยประสิทธิภาพและปริมาณพร้อมองค์ประกอบสำคัญๆทางทหาร ถือว่าสหรัฐอาจจะได้เปรียบ แต่รัสเซียและจีนรู้จุดอ่อนจึงประกาศร่วมมือทางทหารโดยพฤตินัย ทำให้ปิดข้อเสียเปรียบได้ทั้งหมด ถ้ารบกันจนเกิดสงครามโลกครั้งที่3.เละ ทั้งสองฝ่ายคงไม่มีใครแพ้ใครชนะ

 

 

บทความโดย สถาพร  เกื้อสกุล สนับสนุนข้อมูลโดย สัมฤทธิ์ ทองอินทร์