สหรัฐฯ เดินหน้าเพิ่มงบ 11,500 ล้านดอลลาร์ อัดฉีด "สนง.ป้องกันขีปนาวุธ" สูงสุดเป็นประวัติการณ์

วันที่ 25 มี.ค 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สหรัฐฯได้ร่างกฎหมายเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เรื่องเพิ่มงบในส่วนของกระทรวงกลาโหม และอัดฉีดงบประมาณให้แก่สำนักงานป้องกันขีปนาวุธ (MDA) ด้วยวงเงิน 11,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 360,000 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติการณ์

 

ซึ่งทางสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ปิดหน่วยงานรัฐ และมีการส่งร่างกฎหมายให้วุฒิสภาพิจารณาเพื่อลงมติรับรองเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา

ด้านนายทอม คาราโก นักวิเคราะห์อาวุโสจากศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา (CSIS) เผยว่าวงเงินที่ทางการสหรัฐฯได้อัดฉีดให้กับสำนักงานป้องกันขีปนาวุธในปีนี้ ถือว่าเป็นงบประมาณที่เพิ่มสูงมากที่สุดเท่าที่สำนักงานป้องกันขีปนาวุธเคยได้มา โดยสูงกว่าปีที่ผ่านมากว่า 3,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่างบประมาณนี้จะถูกนำไปขยายระบบป้องกันภาคพื้นดินที่มุ่งสกัดขีปนาวุธในระยะมิดคอร์ส และเครื่องมืออื่นๆที่ใช้ป้องกันดินแดนสหรัฐฯ จากการถูกโจมตีโดยขีปนาวุธข้ามทวีป

 

ขณะที่ พล.ท. แซมูเอล กรีฟส์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันขีปนาวุธ เผยว่ามีแนวคิดที่จะใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนยิงขีปนาวุธของศัตรูให้ตกตั้งแต่ปล่อยออกจากฐานยิงใหม่ๆ ซึ่งหน่วยงานได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แต่ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งหมายความว่าสหรัฐฯอาจต้องส่งโดรนไปประจำการอย่างต่อเนื่องใกล้ๆ กับดินแดนของศัตรูที่ขู่จะใช้ขีปนาวุธโจมตีอเมริกา และเมื่อขีปนาวุธถูกยิงมาในทิศทางของสหรัฐฯ โดรนเหล่านี้จะยิงขีปนาวุธให้ตกตั้งแต่อยู่ในระยะขับดัน ซึ่งจะไม่ออกไปจากชั้นบรรยากาศโลก