จีนโชว์ปฏิบัติการทางอากาศเหนือทะเลจีนใต้ ข่มขวัญสหรัฐฯ เดินเรือเข้าเขตหวงห้าม ในขณะที่สัมพันธ์ 2 ประเทศเริ่มสั่นคลอน

ความขัดแย้งระหว่างจีน กับ สหรัฐฯ ดูเหมือนจะระอุขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสงครามการค้า ที่ทั้งคู่ขณะนี้เรียกว่าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะการที่จะตั้งข้อบังคับ การนำเข้าระหว่างกัน รวมถึงการตั้งกำแพงภาษี และการใช้ข้อกฎหมายต่าง ๆ มาร้องเรียน เพื่อตรวจสอบอีกฝั่งหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก็มาจาก ทางด้านสหรัฐฯ เป็นผู้จุดประเด็นขึ้นมาทั้งสิ้น 

 

 

อีกความขัดแย้งที่น่าติดตามเช่นกันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ นั่นก็คือพื้นที่ทะเลจีนใต้ที่ก็มีความขัดแย้งมานาน หลังจากที่จีนนั้นได้ประกาศครอบครองพื้นที่แห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว แม้จะมีประเทศที่เป็นคู่พิพาท แต่ทว่าจีนก็เดินหน้าเจรจาแบบทวิภาคี และแบ่งผลประโยชน์อย่างลงตัว ทำให้คู่พิพาทโดยตรงนั้นแทบจะไม่แสดงออกหรือ สร้างนโยบายใดๆมาขัดแย้งกับทางด้านจีน มีเพียงแต่สหรัฐฯ ที่ประกาศชัดว่าพื้นที่ทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่สากล จีนจะครอบครองเพียงผู้เดียวไม่ได้  แม้จีนจะเข้าไปถมทะเล สร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่สหรัฐฯ เองก็ยังคงเดินหน้าคัดค้านและ ได้ดำเนินการแล่นเรือเข้าไปในพื้นที่ 12 ไมล์ทะเลอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับกับสิ่งที่จีนทำ  นอกจากนั้นแล้วสหรัฐฯ ยังคงได้ไปจับมือกับ 4 ประเทศ เพื่อสร้างนโยบายต่อต้านจีนอย่างจริงจัง นั่นคือ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และล่าสุดก็มีทางด้านอังกฤษ อีกประเทศที่แสดงออกถึงการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ที่จะเดินหน้าคัดค้านเรื่องดังกล่าวเช่นกัน 

 

สัปดาห์นี้ความร้อนแรงของทะเลจีนใต้ ก็กลับมาระอุอีกรอบเมื่อทางด้าน นายเสิ่นจิ้นเคอ โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ได้ออกมาประกาศว่าเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 ว่ทางกองทัพอากาศจีนได้ปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ และในน่านฟ้าบริเวณเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับศึกสงคราม

 

ซึ่งทางกองทัพอากาศได้มีการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K เครื่องบินขับไล่ SU-30 และเครื่องบินรบรุ่นอื่นอีกหลายลำ ขึ้นบินบนน่านฟ้าเหนือช่องแคบมิยาโกะ ระหว่างหมู่เกาะมิยาโกะ และโอกินาวา เพื่อซ้อมรบอย่างเป็นระบบเหนือทะเลแปซิฟิกตะวันตก

 

นอกจากนี้ยังส่งบินรบ SU-35 บินทิ้งระเบิด H-6K และเครื่องบินรุ่นอื่นๆ บินลาดตระเวนร่วมกันเหนือทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจการซ้อมรบอย่างเข้มข้น เพื่อบรรลุเป้าหมายในด้านการเพิ่มศักยภาพในการรบของกองทัพอากาศจีนด้วย

ทั้งนี้ ปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศมีขึ้น หลังจากที่เรือพิฆาตมัสติน (USS Mustin, DDG 89) เข้ามาในน่านน้ำดังกล่าวโดยพลการ ก่อนจะมีเรือรบ 2 ลำของจีนขับไล่ออกไป  โดยเรือพิฆาตลำดังกล่าวได้แล่นเฉียดเข้าใกล้เกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561  ที่ผ่านมา 

 

 

ซึ่งการแล่นเลียบเข้ามาใกล้ชายฝั่งของเกาะเทียมดังกล่าวในระยะ 12 ไมล์ทะเล ถือว่าเป็นการสร้างความยั่วยุให้กับจีนเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ยืนกรานว่าเป็นสิทธิ์ที่จะใช้เสรีภาพในการเดินเรือและเดินอากาศตามกฎหมายระหว่างประเทศ

 

 

การออกมายั่วยุของทางด้านสหรัฐฯ ที่แล่นเรือเข้าไปในพื้นที่ ที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ ดังนั้นจีนเองก็ได้แสดงให้เห็นศักยภาพเช่นเดียวกันว่าเวลานี้ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทางด้านสหรัฐฯ เพื่อปกป้องพื้นที่ผลประโยชน์มหาศาลแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สหรัฐฯ จะงัดกลยุทธ์ ใดมาตอบโต้จีน  แต่เวลานี้สหรัฐฯ จะทำทุกทางเพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เกิดความขัดแย้ง และระอุขึ้นมาเป็นการปะทะย่อย ๆ ขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นสหรัฐฯ จะหาโอกาสเข้าแทรกแซง และแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งกลยุทธ์นี้สหรัฐฯ ใช้ได้ผลมาแล้วในตะวันออกกลาง

 

 

บทความโดย : สถาพร เกื้อสกุล