- 28 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงามตั้งแต่สมัยอดีตกาลคงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า “น้ำมันมะพร้าว”ถือเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่นิยมใช้กันมา ทั้งใช้บำรุงผมให้ผมสวยเงางามและใช้ในการทาผิวในช่วงหน้าหนาวไม่ให้ผิวแตกลาย นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังนำมาใช้ทำกับข้าวได้อีก และอีกสารพัดประโยชน์ คุณบัติของน้ำมันพร้าวถือได้ว่ามีเยอะมาก แต่แค่ “น้ำมันมะพร้าว” คำนี้ คงไม่สามารถที่บอกได้ว่าเราจะใช้อย่างไร เพราะกว่าที่เราจะได้น้ำมันมะพร้าวมาได้นั้นจะต้องมีการผ่านกระบวนการสกัดในรูปแบบต่างๆไปก่อน โดยแบ่งออกเป็น 2 กระบวนการคือ “สกัดเย็น” และ “สกัดร้อน”
1. “น้ำมันมะพร้าวที่สกัดเย็น”
คือ น้ำมันที่สกัดได้จากเนื้อมะพร้าวโดยไม่ใช้สารเคมีและความร้อนสูง เช่น วิธีการหมักหรือการบีบน้ำกะทิออกจากเนื้อมะพร้าวก่อนนำไปตกตะกอน เพื่อให้ได้น้ำมันออกมา ซึ่งน้ำมันมะพร้าวที่สกัดแบบเย็นนี้จะเรียกว่าน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือ virgin oil ซึ่งจะมีลักษณะใส ไม่มีสี ไม่มีตะกอน มีกลิ่นหอมของมะพร้าว ไม่มีกลิ่นหืน สามารถรับประทานได้ ใช้ดูแลผิวพรรณ เส้นผม และนำไปทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
2. “น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากสกัดแบบร้อน”
คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดโดยการผ่านความร้อนสูง น้ำมันที่ได้จะมีสีเหลือง ไม่มีกลิ่น แต่หากทิ้งไว้นานๆ จะมีกลิ่นหืน น้ำมันชนิดนี้จะเอาไว้ใช้ทอดอาหารหรือขนมที่ต้องใช้ความร้อนสูง
เมื่อเรารู้แล้วว่าน้ำมันสกัดเย็นร้อนแตกต่างกันเช่นไร เราก็มาดูกันเลยจ้า….ว่าประโยชน์ของ “ น้ำมันมันมะพร้าว” มีอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาดูในส่วนของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น….. ประโยชน์ทั้ง 18 ข้อ แบบฟินๆ
1.ลดระดับคอเลสเตอรอล บำรุงสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานและโรคมะเร็ง
2.เร่งอัตราการเผาผลาญ และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักอย่างมาก
3.ช่วยในการลดน้ำหนัก บำรุงกำลังในผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย ผอมแห้งและเพิ่มแรงพลังให้แก่นักกีฬาได้เป็นอย่างดี
4.ไม่แปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันทรานส์ ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับความร้อนจึงไม่ก่อให้กลายเป็นสารก่อมะเร็ง จึงให้ความปลอดภัยเมื่อนำมาใช้ทอดอาหารหลายครั้ง
5.มีสารโมโนโลริน โดยสารนี้นับเป็นสารปฏิชีวนะที่มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อโรคได้อย่างหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียเชื้อรา เชื้อไวรัสและพยาธิ ซึ่งสามารถทำลายได้ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
6.ย่อยง่าย จึงเหมาะสำหรับสุขภาพผู้ป่วยโรคถุงน้ำดี เพราะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ในเวลารวดเร็ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เด็กทารกและผู้สูงอายุที่มีการดูดซึมอาหารไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพ
7.เป็นแหล่งของวิตามินเอ ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้สวยสุขภาพดี
8.ปราศจากกลิ่นหืน จึงสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารเพื่อทำให้รสชาติอาหารอร่อยยิ่งขึ้นได้
9.ช่วยในการดูดซึมวิตามิน เกลือแร่และกรดอะมิโนที่มีความจำเป็นต่อความต้องการร่างกาย
10.ช่วยรักษาโรคปวดเมื่อย ชะลอการเสื่อมสภาพให้เป็นไปตามวัยได้ดี
11.ช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง
12.ช่วยรักษาอาการปวดกระดูก
13.ช่วยรักษาเชื้อราบนผิวหนังและร่องเล็บ
14.ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย รวมถึงอาการเคล็ดขัดยอก
15.สามารถนำมาใช้แทนครีมกันแดด และช่วยแก้ปัญหาผิวไหม้จากแดดได้
16.ใช้สำหรับล้างแผลสดและใส่แผลสดได้
17.ช่วยรักษาส้นเท้าแตก บำรุงส้นเท้าที่หยาบกร้านให้นุ่มชุ่มชื้น
18.สามารถนำมาใช้คู่กับการโกนหนวด และเช็ดล้างคราบเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณภาพ: istock,pexels.com,honestdocs