พบศพชายถูกฆ่าหายไปนาน 40 ปี หลังเมล็ดพืชในท้องโตขึ้นมาเป็นต้นไม้

ติดตามรายละเอียด www.tnews.co.th

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพชายชาวไซปรัสเชื้อสายกรีก ชื่อนายอาร์เหม็ด เฮอร์กูน โดยอาร์เหม็ดถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในเหตุการณ์ความขัดแย้งทางเชื้อชาติระหว่างชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกและไซปรัสเชื้อสายตุรกี เมื่อปี 1974 ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบศพของนายอาร์เหม็ดได้สูญหายไปจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 40 ปี

จนเมื่อปี 2011 ทีมนักวิจัยไปเจอต้นมะเดื่อยืนต้นอยู่ต้นหนึ่ง ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยพบต้นมะเดื่อในภูมิประเทศที่เป็นภูเขาเลย อีกทั้งโค่นต้นมะเดื่อดังกล่าวยังโผล่ออกมาจากในถ้ำ จึงทำให้นักวิจัยเกิดความสงสัยและได้เริ่มทำการขุดค้นจนกระทั่งทีมวิจัยพบว่าต้นมะเดื่อนี้โตมาจากท้องของมนุษย์

ตามรายงานระบุว่า ทีมนักวิจัยค้นพบซากศพจำนวน 3 ร่างด้วยกัน ซึ่งจากการตรวจสอบดีเอ็นเอจากเสื้อผ้าและโครงกระดูกแล้วก็พบว่าโครงกระดูก 1 ใน 3 ร่างนั้นเป็นของนายนายอาร์เหม็ด เฮอร์กูน ทีมนักวิจัยสันนิษฐานว่า นายอาร์เหม็ดและชายอีก 2 คน ได้เข้ามาหลบในถ้ำนี้ ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะขว้างวัตถุระเบิดใส่จนะคนทั้ง 3 เสียชีวิต ส่วนต้นมะเดื่อดังกล่าวทีมวิจัยคาดว่า นายอาร์เหม็ดอาจจะกินผลมะเดื่อเข้าไปก่อนเสียชีวิตไม่นาน อีกทั้งแรงของระเบิดยังทำให้เกิดโพรงภายในถ้ำมีแสงสาดส่องเข้าไปได้ จึงทำให้ต้นมะเดื่อเจริญเติบโต

 

พบศพชายถูกฆ่าหายไปนาน 40 ปี หลังเมล็ดพืชในท้องโตขึ้นมาเป็นต้นไม้

ด้านนางมูเนอร์ เฮอร์กูน วัย 87 ปี น้องสาวของนายอาห์เหม็ดกล่าวว่า ในตอนนั้นครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งที่มีจำนวนคนเชื้อสายกรีกและเติร์กจำนวนพอๆ กัน กระทั่งเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งขึ้นในปี 1974  นายอาร์เหม็ดพี่ชายของเธอได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านชาวเติร์ก และหายตัวไปตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งทางนางมูเนอร์กล่าวว่า “เมล็ดมะเดื่อในท้องของพี่ชายฉันโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ เพราะมีแสงส่องผ่านเข้าไปผ่านทางโพรงที่เกิดจากแรงระเบิด ฉันต้องขอบคุณต้นมะเดื่อต้นนี้ที่ทำให้ฉันพบศพของพี่ชาย”

 

พบศพชายถูกฆ่าหายไปนาน 40 ปี หลังเมล็ดพืชในท้องโตขึ้นมาเป็นต้นไม้

 

พบศพชายถูกฆ่าหายไปนาน 40 ปี หลังเมล็ดพืชในท้องโตขึ้นมาเป็นต้นไม้