เจ้าของกุชชีบริจาคเงิน 3 พันล้านบูรณะมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม

จากกรณีสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 เม.ย.เมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้ มหาวิหารน็อทร์-ดาม แลนด์มาร์กสำคัญใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อายุกว่า 850 ปี 

 

หลังทราบเรื่องนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งยกเลิกแผนการที่จะแถลงเกี่ยวกับไฟไหม้ครั้งนี้ ด้าน นางแอน ฮิลดัลโก นายกเทศมนตรีปารีส ทวีตว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของปารีสพยายามที่จะเข้าควบคุมเพลิง และขอร้องประชาชนอย่าเข้าใกล้สถานที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานได้อย่างเต็มที่

 

เพลิงไหม้มหาวิหารน็อทร์-ดาม

 

ขณะที่ ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ของสหรัฐฯ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ได้เห็นภาพเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เผาผลาญวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ถ้าใช้เครื่องบินบรรทุกน้ำช่วยดับไฟอาจได้ผล และขอให้เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเร่งดำเนินการโดยเร็ว  ล่าสุด สถานเอกอัคราชทูตไทย ประจำกรุงปารีส เผยว่า ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทั้งนี้ มหาวิหารสถาปัตยกรรมกอทิกแห่งนี้ มีผู้มาเยือนปีละหลายล้านคน ปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างบูรณะปฏิสังขรณ์

 

เฟตุการณ์ไฟไหม้ มหาวิหารน็อทร์-ดาม

 

วินาทีเพลิงลุกไหม้ มหาวิหารน็อทร์-ดาม

ล่าสุดมีรายงานนายฟรองซัวส์ อ็องรี-ปิโนต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัทเคริง ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเสื้อหรูอย่างกุชชี และอีฟว์ แซ็ง โลร็อง ประกาศบริจาคทันที 100 ล้านยูโร ( ราว 3,593.9 ล้านบาท ) เพื่อช่วยเป็นค่าบูรณะซ่อมแซมความเสียหายในครั้งนี้

 

เจ้าของกุชชีบริจาคเงิน 3 พันล้านบูรณะมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม

 

สำหรับมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame แปลว่า แม่พระ (Our Lady) ซึ่งเป็นคำที่ชาวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์พรหมจารี ปัจจุบันอาสนวิหารก็ยังใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่ตั้งคาเทดราของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส อาสนวิหารน็อทร์-ดามถือกันว่าเป็นโบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส โบสถ์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส

การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นอาสนวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอทิก ประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น

นอร์ทเทอร์-ดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ "ครีบยันลอย" ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบอาสนวิหาร "บริเวณร้องเพลงสวด" หรือ รอบบริเวณกลางโบสถ์ เมื่อเริ่มสร้างกำแพงโบสถ์สูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอทิกจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและหลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัวโบสถ์เอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอยแล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่งที่ทำให้สิ่งก่อสร้างความสวยงามขึ้น ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหานี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของโบสถ์ที่สร้างแบบกอทิกไปในตัว

ในปี ค.ศ. 1793 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส โบสถ์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก อาสนวิหารได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย

 

เจ้าของกุชชีบริจาคเงิน 3 พันล้านบูรณะมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม

 

เจ้าของกุชชีบริจาคเงิน 3 พันล้านบูรณะมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม