ค้นพบครั้งสำคัญ เจอร่างชายผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ

ค้นพบครั้งสำคัญ เจอร่างชายผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ

วันนี้ (05/05/2562) เพจ China Xinhua News ได้รายงานข่าวว่า คันธนูในมือซ้าย อาวุธหยกในมือขวา และกระดูกขากรรไกรล่างของหมู 18 ชิ้นที่เท้า ... เมื่อ 5,000 ปีก่อนชายผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน ครอบครองอำนาจและความร่ำรวยอะไรไว้?”

 

ค้นพบครั้งสำคัญ เจอร่างชายผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ

คำถามข้างต้นว่าด้วยตัวตนของผู้ครอบครองสุสานโบราณ ซึ่งถูกค้นพบในซากโบราณหวงซาน เมืองหนานหยาง มณฑลเหอหนานทางจีนตอนกลาง เมื่อไม่นานนี้ กำลังเป็นหัวข้อถกเถียงของคณะนักโบราณคดีจีน

“อาวุธทำจากหยก รูปทรงคล้ายขวานหิน เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ” หม่าจวินฉาย หัวหน้าทีมนักโบราณคดีและนักวิจัยจากสถาบันโบราณคดีและมรดกทางวัฒนธรรมมณฑลเหอหนานกล่าว

“ขณะเดียวกันการค้นพบอื่นๆ เช่น โลงศพไม้ วัตถุที่ถูกฝังกลบอย่างภาชนะหยก เครื่องหิน เครื่องดินเผา และกระดูกขากรรไกรล่างของหมูจำนวนมาก ก็สะท้อนว่าตอนเจ้าของสุสานยังมีชีวิตเป็นผู้มีอำนาจและความร่ำรวย”

หม่าเสริมว่าสุสานแห่งนี้นับเป็นสุสานประจำตระกูลของวัฒนธรรมชวีเจียหลิ่ง ที่จัดว่ามีระดับสูงสุดเท่าที่เคยค้นพบในมณฑลเหอหนานและพื้นที่ตอนกลางแม่น้ำฮั่นเจียง

ค้นพบครั้งสำคัญ เจอร่างชายผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ

อนึ่ง วัฒนธรรมชวีเจียหลิ่งเป็นวัฒนธรรมยุคหินใหม่ตอนปลาย ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่รอบพื้นที่ตอนกลางของแม่น้ำแยงซีเกียงในมณฑลหูเป่ยและมณฑลหูหนาน
.
นอกจากนั้นนักโบราณคดียังค้นพบซากบ้านของวัฒนธรรมหย่างสาว หลังจากวัฒนธรรมหย่างสาว จำนวน 2 หลัง ใกล้กับสุสานของบุคคลที่คาดว่าเป็นผู้นำตระกูลอีกด้วย

ค้นพบครั้งสำคัญ เจอร่างชายผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ

รายงานระบุว่าบ้านแต่ละหลังมีพื้นที่มากกว่า 120 ตารางเมตร สันนิษฐานว่านอกจากเป็นที่พักอาศัยแล้วยังเป็นโรงผลิตหยก เนื่องจากขุดพบชิ้นหยก ทั้งแบบอยู่ระหว่างการผลิตและผลิตเสร็จแล้ว รวมถึงเครื่องมือต่างๆ
.
“ซากบ้านที่ค้นพบมีความหมายต่อการศึกษาโครงสร้างบ้านเรือนและเทคนิคการก่อสร้างของวัฒนธรรมหย่างสาว” หลวนเฟิงสือ อาจารย์มหาวิทยาลัยซานตงกล่าว โดยหย่างสาวเป็นวัฒนธรรมริมแม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลืองในยุคหินใหม่
.
ซากสิ่งปลูกสร้างโบราณหวงซานถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1959 มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 200,000 ตารางเมตร นับเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าทางโบราณคดี ที่มีนัยยะสำคัญต่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของยุคหินใหม่

 

ขอบคุณข้อมูลจาก China Xinhua News