สาวสวยต้องทนทุกข์ ฝันจะได้ไปเจอความรักกับโอปป้าเกาหลี สุดท้ายกลายเป็นฝันร้าย

สาวสวยต้องทนทุกข์ ฝันจะได้ไปเจอความรักกับโอปป้าเกาหลี สุดท้ายกลายเป็นฝันร้าย

วานนี้ (07/08/2563)  ซีเอ็นเอ็น รายงานเรื่องราวชีวิต “ตรินห์” สาวชาวเวียดนาม วัย 29 ปี แต่งงานกับ “ชิน” ชายเกาหลีใต้วัย 50 ปี หลังจากเจอหน้ากันเพียงวันเดียวผ่านนายหน้าหาคู่ และจัดงานวิวาห์ในวันที่ 4 พ.ย. 2561 ที่เวียดนาม

จากนั้น ต่างคนต่างอยู่ประเทศตัวเอง จนกระทั่ง ตรินห์ย้ายมาอยู่ที่เมืองยังจูในเกาหลีใต้ หลังจากแต่งงาน 7 เดือน แต่เกิดปัญหาตั้งแต่แรกเพราะทั้งคู่สื่อสารกันไม่ได้ ต่างคนต่างพูดภาษาตัวเองและมีใช้ชีวิตต่างกัน รวมทั้ง มีปัญหาการเงิน

หลังจากทนอยู่ด้วยกัน 3 เดือน ตรินห์บอกสามีว่าจะย้ายไปอยู่กับญาติอีกเมืองหนึ่งในเกาหลีใต้ แต่ชินห้ามไว้ ตรินห์จึงไม่พอใจ คว้ามีดทำครัวแทงเข้าที่ต้นขา ส่วนชินคว้ามีดมาแทงภรรยา 10 ครั้งที่หน้าอกและท้องจนเสียชีวิต จากนั้น ห่อศพด้วยพลาสติก พร้อมกับเก็บข้าวของส่วนตัวของภรรยาเอาไปฝังในสวนพลับ ห่างจากบ้านในเมืองยังจู 200 กิโลเมตร

สาวสวยต้องทนทุกข์ ฝันจะได้ไปเจอความรักกับโอปป้าเกาหลี สุดท้ายกลายเป็นฝันร้าย

ล่าสุด เดือน เม.ย. 2563 ศาลพิพากษาจำคุกชิน 15 ปี ฐานฆาตกรรมภรรยา นี่เป็นเพียงกรณีเดียวที่สะท้อนถึงชีวิตภรรยาชาวเวียดนามในเกาหลีใต้ สาวเวียดนามส่วนใหญ่อายุน้อยและหวังว่าจะมีชีวิตคู่ที่มีความสุขและเก็บหอมรอมริบส่งเงินกลับไปให้ทางบ้านแต่ความจริงแล้ว หลายคนต้องเผชิญปัญหาชีวิตนานาประการ

ผลการสำรวจของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกาหลีใต้ เมื่อปี 2560 ระบุว่า ภรรยาชาวต่างชาติกว่าร้อยละ 42 ถูกทำร้ายภายในบ้าน ทั้งทำร้ายรางกาย ทำร้ายด้วยคำพูด ปัญหาจากการมีความสัมพันธ์ทางเพศและมีปากเสียงเกี่ยวกับเงิน เมื่อมีถูกทำร้ายในบ้าน ฝ่ายภรรยาก็ไม่กล้าพูดเพราะอับอาย

ขณะที่หญิงชาวเกาหลีใต้ มีเพียงร้อยละ 29 เท่านั้นที่รายงานว่าประสบปัญหาเดียวกัน จากผลสำรวจของกระทรวงความเสมอภาคทางเพศและครอบครัวเมื่อปีที่แล้ว เกาหลีใต้ประสบปัญหาประชากรหญิงและชายในชนบทไม่สมดุลกันมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากหญิงสาวมักมุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อหางานทำและแต่งงาน ส่วนผู้ชายทำงานในที่ดินของครอบครัวและดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่าด้วยความกตัญญูตามหลักคำสอนของลัทธิขงจื๊อ
 

ทางการท้องถิ่นพยายามแก้ปัญหาตั้งแต่เกือบ 40 ปีก่อน โดยให้เงินอุดหนุนแก่นายหน้าหาคู่เพื่อจูงใจให้หาคู่มาจัดงานแต่งงานให้กับชายชาวเกาหลีใต้เพื่อจะได้มีลูก มาทดแทนประชากรสูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าสาวชาวเกาหลีใต้ไม่เพียงพอกับจำนวนชายโสดในชนบท จึงต้องมองหาผู้หญิงต่างชาติ ทั้งฟิลิปปินส์ เวียดนามและกัมพูชา

ปี 2561 ชายเกาหลีใต้แต่งงานกับหญิงต่างชาติกับหญิงชาวเวียดนามกว่า 6,000คน รองลงมาเป็นหญิงจีน ประมาณ 3,600 คน และไทย ประมาณ 1,560 คน

เมื่อคิดเป็นอัตราส่วนจะเห็นว่าเจ้าสาวเวียดนามมีจำนวนมากที่สุดถึงร้อยละ 28 เพราะสาวเวียดนามต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น หวังว่าจะมีเงินทองใช้และส่งเงินไปช่วยเหลือทางบ้าน

ด้านโครงการความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำสหประชาชาติ พบว่าหญิงสาวชาวเวียดนามตกเป็นเหยื่อถูกบังคับแต่งงานในหลายประเทศ รวมทั้ง เกาหลีใต้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของศูนย์เพื่อนผู้อพยพในเกาหลีใต้ แย้งว่าเจ้าสาวต่างชาติตกลงใจย้ายมาเกาหลีใต้เองเพื่อส่งเงินให้ครอบครัวมากกว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่ยอมรับว่าถูกเลือกปฏิบัติในครอบครัว ไม่ได้มีส่วนตัดสินใจภายในบ้าน แม้แต่ถูกแม่สามีตำหนิเรื่องทำอาหาร ไปจนถึงไม่ได้รับเงินที่ขอจากสามี

สาวสวยต้องทนทุกข์ ฝันจะได้ไปเจอความรักกับโอปป้าเกาหลี สุดท้ายกลายเป็นฝันร้าย

ปัญหาดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับทั้งรัฐบาลเกาหลีใต้และประเทศในอาเซียน โดยเกาหลีใต้ออกกฎตั้งแต่ปี 2557 ให้ชาวเกาหลีใต้และคู่สมรสต้องสื่อสารกันได้และคู่สมรสต้องมีวีซ่า และเมื่อปี 2553 กัมพูชาเคยห้ามไม่ให้พลเมืองกัมพูชาแต่งงานกับชาวเกาหลีใต้เป็นการชั่วคราว

หากภรรยาชาวต่างชาติถูกสามีทำร้าย ก็สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ในเกาหลีใต้ตามลำพังต่อไปหรือไม่ แต่หากหย่ากันและไม่มีลูก ฝ่ายภรรยาต้องกลับประเทศตัวเอง

เกาหลีใต้เป็นประเทศในอันดับต่ำสุดจากการจัดอันดับช่องว่างทางเพศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากมีความไม่เสมอภาคทางเพศในด้านการเมืองและโอกาสการจ้างงานสำหรับผู้หญิง

นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองการถูกเลือกปฏิบัติให้กับพลเมืองตัวเองอีกด้วย