สลด"หนุ่มเวียดนาม"ไร้ทางออก ตัดสินใจซดยาพิษ หลังถูกรัฐยึดที่ดินไปให้นายทุน

14 ส.ค. 2563 สำนักข่าว Radio Free Asia ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้นเพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง เสนอข่าว Vietnamese Man in Suicide Bid Over Jail Term in Mekong Delta Land Grab Row ระบุว่า เหงียน หง ตรัง เคียน (Nguyen Hoang Trung Kien) ชายชาวเวียดนามวัย 30 ปี ดื่มยาฆ่าแมลงหวังปลิดชีพตนเอง เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 12 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา ในเมืองเกิ่นเทอ (Can Tho) ทางใต้ของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้ช่วยชีวิตชายผู้นี้ไว้ได้ทัน

รายงานข่าวระบุแรงจูงใจของชายคนดังกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของภาครัฐที่มีการนำที่ดินของประชาชนไปใช้ประโยชน์ โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตเทอไหล (Tho Lai) เมืองเกิ่นเทอ ได้เจรจาว่าจะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวของ เหงียน หง แลกกับการนำที่ดินไปใช้พัฒนาเมืองใหม่ และแม้ครอบครัวของชายคนนี้จะปฏิเสธ สำนักงานเขตกลับยังมอบหมายให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชน เข้าดำเนินการยึดที่ดินดังกล่าว 

ด้วยความโกรธแค้น เหงียน หง จึงใช้รถตักดินขับเข้าไปทำลายโกดังที่ถูกก่อสร้างขึ้นบนที่ดินครอบครัวของตน ทำให้เขาถูกตัดสินจำคุก 9 เดือน ในข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น และไม่ได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์เพื่อขอลดโทษ อนึ่ง เวียดนามมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชนเรื่องการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ในหลายกรณี เช่น ที่เมืองเงีย อาน (Nghe An) ทางตอนกลางของเวียดนาม อัยการได้สั่งฟ้อง เหงียน ควง วินห์ (Nguyen Quang Vinh) ที่ใช้สื่อออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างตำรวจกับชาวบ้านในกรุงฮานอย

เหงียน ควง ถูกตั้งข้อหา “ละเมิดสิทธิประชาธิปไตยเพื่อละเมิดผลประโยชน์ของรัฐ (abusing democratic rights to infringe on the interests of the state)” และมีอีก 5 คนที่ถูกตั้งข้อหาอย่างเดียวกันเนื่องจากนำเนื้อหาไปเผยแพร่ต่อบนโลกออนไลน์ โดยเหตุปะทะดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 9 ม.ค. 2563 ที่ชุมชนดองทัม (Dong Tam) มีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย และชาวบ้าน 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตฝ่ายชาวบ้านคือ เลอ ดินห์ คินห์ (Le Dinh Kinh) ผู้อาวุโสวัย 84 ปี สาเหตุมาจากความต้องการนำที่ดินของชาวบ้านไปใช้ก่อสร้างสนามบินทางการทหาร

เหตุการณ์ครั้งนี้ทางการเวียดนามอ้างว่าชาวบ้านได้เปิดฉากโจมตีกำลังเจ้าหน้าที่ก่อนด้วยระเบิดมือและระเบิดเพลิงที่ทำจากขวดบรรจุน้ำมัน แต่รายงานจากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและสื่อท้องถิ่น ระบุว่า เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังกับชาวบ้านก่อน มีการปิดกั้นทางเดินและไล่ทุบตีชาวบ้านไม่เว้นแม้แต่สตรีและคนชรา นำมาสู่เหตุปะทะกันดังกล่าวระหว่างรัฐกับประชาชนที่ว่ากันว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปีของเวียดนาม 

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า การยึดที่ดินของประชาชนโดยภาครัฐของเวียดนามนั้นจุดกระแสความไม่พอใจขึ้นเพราะประชาชนเห็นว่าที่ดินถูกยึดจากคนเล็กคนน้อยเพื่อนำไปใช้เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนรายใหญ่ และจ่ายค่าเวนคืนให้กับชาวบ้านน้อยเกินไป ทั้งนี้ ในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็กำลังมีปัญหาทำนองเดียวกัน

Cr.แนวหน้า