เปิดชีวิตอดีตหนุ่มเซลส์แมน เคยดูถูกโดนธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ลงทุนธุรกิจ เก็บความผิดหวังเป็นแรงผลักดัน จนกลับมาซื้อตึกแบงค์ดังกล่าวได้

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนก็ว่าได้ เมื่อ เว็บไซต์ Ladbible ได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตของ อดัม เดียริง นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 39 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายล้านปอนด์และอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง แต่ถึงอย่างนั้นกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเขาคนนี้เคยต้องเจ็บช้ำมาแล้ว จากการถูกธนาคารปฏิเสธคำขอสินเชื่อ มูลค่า 10,000 ปอนด์ (ราว 406,000 บาท) ด้วยเหตุผลว่าเขายังหนุ่มและไร้ประสบการณ์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนก็ว่าได้ เมื่อ เว็บไซต์ Ladbible ได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตของ อดัม เดียริง นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 39 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายล้านปอนด์และอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง แต่ถึงอย่างนั้นกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเขาคนนี้เคยต้องเจ็บช้ำมาแล้ว จากการถูกธนาคารปฏิเสธคำขอสินเชื่อ มูลค่า 10,000 ปอนด์ (ราว 406,000 บาท) ด้วยเหตุผลว่าเขายังหนุ่มและไร้ประสบการณ์  

แต่แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไป 17 ปี ด้วยความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ของเขา ก็ทำให้เขาต้องหัวเราะได้ในภายหลัง เมื่อเขาเพิ่งจะทุ่มเงิน 450,000 ปอนด์ (ราว 18 ล้านบาท) เพื่อซื้ออาคารของธนาคารดังกล่าว ที่ผู้จัดการธนาคารเคยดูแคลนความฝันของเขาในวันวาน

โดยเรื่องราวเริ่มต้นที่ว่า อดัม เดียริง เคยทำงานเป็นเซลส์แมนอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจลาออกตอนอายุ 21 ปี เพราะเขารู้ว่าตัวเองมีดีพอที่จะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ แม้จะมีความมุ่งมั่น แต่สิ่งที่เขายังไม่มีก็คือเงิน ดังนั้นในปี 2545 เดียริงจึงได้จัดทำแผนโครงสร้างธุรกิจ ไปนำเสนอเพื่อยื่นขอสินเชื่อ 10,000 ปอนด์ จากธนาคารแห่งหนึ่ง ในสาขาเมืองเอิร์มสตัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา


แต่ดูเหมือนผู้จัดการธนาคารจะไม่ได้ใส่ใจเขาจริงจัง แม้ว่าเขาจะเฝ้ารอผลลัพธ์ด้วยความตึงเครียด ทว่าสุดท้ายสิ่งที่ได้รับคือคำปฏิเสธ ครั้งนั้นเขาถึงกับบอกว่า "ผมเสียใจมาก ตอนที่เธอบอกว่าผมยังเด็กเกินไปและขาดประสบการณ์ และไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมเสี่ยงไปกับผม" 

 

เปิดชีวิตอดีตหนุ่มเซลส์แมน เคยดูถูกโดนธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ลงทุนธุรกิจ เก็บความผิดหวังเป็นแรงผลักดัน จนกลับมาซื้อตึกแบงค์ดังกล่าวได้

เพราะขาดเงินทุน เดียริงต้องใช้ช่วงเวลา 4 เดือนแรกในการทำตามความฝันอย่างยากลำบาก ทำให้เขาใช้เงินเดือนก้อนสุดท้ายจากงานเซลส์แมน มาเช่าออฟฟิศเล็ก ๆ ในเมืองสเตรทฟอร์ด นั่งทำงานบนพื้นเพราะไม่มีเงินพอจะซื้อโต๊ะหรือเก้าอี้ อาศัยบัตรเครดิตแบบใช้เงินสดค้ำประกัน กับการโทร. ติดต่อลูกค้าที่มีศักยภาพโดยตรง

เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ๆ ที่เดียริงต้องกัดฟันสู้ต่อความลำบากในช่วงเริ่มธุรกิจบริหารจัดการหนี้สิน ก่อนที่ในปี 2557 เขาจะสามารถขายธุรกิจนี้ไปได้ด้วยมูลค่า 5 ล้านปอนด์ (ราว 203 ล้านบาท)

"ในช่วงเดือนแรก ๆ นั้นเป็นอะไรที่ลำบากมาก ผมไม่รู้ว่าจะสามารถทำให้มันเวิร์กได้ไหม และไม่รู้ว่าจะสามารถหาเงินมาจ่ายบิลต่าง ๆ ได้ไหม มีช่วงเวลามากมายที่ผมคิดว่ามันจบลงแล้ว แต่ผมปฏิเสธที่จะยอมแพ้" เดียริง กล่าว

ปัจจุบัน เดียริง นับเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการยอมรับในโลกธุรกิจ นอกจากธุรกิจบริหารจัดการหนี้สินที่เขาขายไปแล้ว เขายังเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายล้านปอนด์อีก 5 ธุรกิจด้วยกัน ขณะเดียวกัน เขายังใช้เรื่องของตัวเองที่เริ่มต้นจากจุดที่ยากลำบาก จนก้าวมาเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐี มาช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น ในฐานะของนักพูดสร้างแรงบันดาลใจด้วย

ล่าสุด เดียริง เพิ่งจะใช้เงิน 450,000 ปอนด์ (ราว 18 ล้านบาท) ซื้ออาคารสถานที่ของธนาคารที่เคยปฏิเสธเงินกู้ของเขา ในเมืองเอิร์มสตัน แน่นอนว่าการซื้ออาคารของธนาคาร มีความสำคัญต่อสภาพจิตใจของเขา แต่เดียริงก็ยังมีความตื่นเต้นกับแผนทุ่มงบอีก 500,000 ปอนด์ (ราว 20 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาสถานที่ดังกล่าวให้เป็นที่พักอาศัยร่วมกับร้านค้าปลีก

"การสร้างธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และมักจะมีช่วงเวลาที่เราสงสัยเสมอว่ามันจะเวิร์กหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของคุณ และเดินต่อไป มันจะมีอุปสรรคให้เราต้องเอาชนะอยู่เสมอ" เดียริง กล่าว

 

เปิดชีวิตอดีตหนุ่มเซลส์แมน เคยดูถูกโดนธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ลงทุนธุรกิจ เก็บความผิดหวังเป็นแรงผลักดัน จนกลับมาซื้อตึกแบงค์ดังกล่าวได้

 

ขอบคุณข้อมูล  Ladbible
ขอบคุณภาพ จาก Instagram adam_deering