จีนเอาจริง ประกาศ เหรียญดิจิทัลทุกชนิด ผิดกฎหมาย

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าวัยรุ่นยุคสมัยนี้สนใจขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี หรือเหรียญดิจิทัลเพื่อหารายได้มาใช้จ่าย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการลงทุนดังกล่าวนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากในการลงทุน แต่หากใครลงทุนแล้วปังก็ได้กำไรกลับคืนมาแบบเท่าตัว รวยไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว

ทว่ากลับมีประเทศหนึ่งที่เพิ่งประกาศให้ คริปโตเคอร์เรนซี หรือเหรียญดิจิทัลทุกชนิด อาทิ บิทคอยน์ (Bitcoin) อีเธอเรียม (Ethereum) และเทเธอร์ (Tether) เป็นสกุลเงินผิดกฎหมาย ไม่สามารถใช้หมุนเวียนทางการเงิน และไม่มีอำนาจซื้อหรือใช้ชำระหนี้ทางกฎหมาย ดังนั้นจึงห้ามขุดและทำธุรกรรมทุกประเภท

ประเทศที่เพิ่งประกาศดังกล่าวไปก็คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ไม่นานมานี้ ทางธนาคารกลางแห่งประเทศจีน ได้ประกาศว่าคริปโตเคอร์เรนซี หรือเหรียญดิจิทัลทุกชนิด เป็นสกุลเงินผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลทุกชนิด รวมทั้งผู้ให้บริการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด 

โดยหน่วยงานของรัฐบาลจีน 10 แห่ง รวมทั้งธนาคารกลาง การเงิน หลักทรัพย์ และหน่วยงานกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้ผนึกกำลังเพื่อจะจัดการปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจัง ผู้ที่กระทำความผิดจะถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีทางกฎหมาย

 ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน ระบุถึงรายละเอียดว่า รัฐบาลจะปราบปรามการเก็งกำไรสกุลเงินดิจิทัลอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องทรัพย์สินของประชาชน และรักษาระเบียบทางเศรษฐกิจ การเงิน และสังคม

นอกจากนี้ตามรายงานยังระบุอีกว่า กำลังขุดบิตคอยน์มากถึง 3 ใน 4 ของโลกนั้น เกิดขึ้นในประเทศจีน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้ใช้ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล และพลังงานที่ผลิตโดยโรงเผาถ่านหินนั้น มีส่วนทำให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่างมาก โดยเฉพาะเหมืองบิตคอยน์ในมณฑลเสฉวน ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ก็ถูกสั่งปิดไปเป็นที่เรียบร้อยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกัน นักขุดจำนวนมากได้ย้ายไปต่างประเทศ ซึ่งการปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซีเกิดขึ้นเนื่องจากความเป็นกังวลต่อสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง และอาจจะส่งผลต่อการควบคุมระบบการเงิน เพิ่มความเสี่ยงและส่งเสริมอาชญากรรมทางการเงินทั่วโลก และทำร้ายนักลงทุน รวมทั้งการทำเหมืองขุดเหรียญที่ต้องใช้พลังงานมาก ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโลก

ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐบาลจีนยังอธิบายอีกว่า การเก็งกำไรสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นการขัดขวางระเบียบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทางการจีนให้ความสำคัญสูงสุด ทั้งนี้ ทางนักวิเคราะห์ยังเผยว่า ทางการจีนมองว่าคริปโตเคอเรนซีเป็นภัยคุกคามต่อสกุลเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ในโครงการนำร่องขั้นสูง  

อย่างไรก็ตาม หลังจากการแถลงของรัฐบาลจีนในวันที่ 24 กันยายน ส่งผลให้บิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในหนึ่งวัน อีกทั้งยังกระทบกับคริปโตเคอเรนซีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนทั่วโลก แม้ว่าจะสามารถกลับตัวขึ้นมาได้บางส่วนในตลาดซื้อขาย

ข้อมูลจาก โกลบอลไทม์ส, รอยเตอร์ส