ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ...เปิดข้อมูลลับ เส้นทางการเงิน "ธรรมกาย-ธัมมชโย-ศุภชัย-สถาพร" จากศรัทธาสู่แตกหัก  !!! (ติดตามรายละเอียด)

ผลพวงจากการติดตามเส้นทางการเงินในคดียักยอกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกตรวจสอบพบว่า "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" อดีตประธานสหกรณ์ฯ ได้เซ็นจ่ายเช็คเงินสดให้กับ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ชื่อเดิมหลวงพ่อธมมช

ผลพวงจากการติดตามเส้นทางการเงินในคดียักยอกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกตรวจสอบพบว่า "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" อดีตประธานสหกรณ์ฯ ได้เซ็นจ่ายเช็คเงินสดให้กับ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ชื่อเดิมหลวงพ่อธมมชโย ปัจจุบันคือพระเทพญาณมหามุนี) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และคนใกล้ชิด จำนวน 15 ฉบับ วงเงินกว่า 714 ล้านบาท ซึ่งมีเงินบางส่วนระบุว่านำไปใช้ในการก่อสร้างอาคารของวัดพระธรรมกาย

 

ขณะที่เงินบางส่วน ก็ถูกระบุว่าไปอยู่ที่ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระวัดธรรมกายที่เพิ่งสึกออกมาในช่วงปี 2554 และปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มีทุนจดทะเบียนรวมกันมากกว่า 1.64 หมื่นล้านบาท จึงทำให้วัดพระธรรมกาย ถูกสังคมจับตามองเป็นอย่างมาก! ถึงความเกี่ยวข้องในเรื่องเงินของกลางในคดี

 

เพื่อคลี่คลายที่มาและความเชื่อมโยงของบุคคลเหล่านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้สัมภาษณ์ ดร.นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) อดีตพระเถรที่เคยบวชเรียนที่วัดธรรมกาย เคยได้รับทุนจากวัดธรรมกายไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เพื่อแกะรอยข้อมูลเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย

 

เบื้องต้น  ดร.นพ.มโน กล่าวออกตัวก่อนว่า เขาเคยนับถือเจ้าอาวาสธมมชโยอย่างยิ่ง แต่เมื่อพบเห็นว่าเจ้าอาวาสเปิดบริษัทนอมินีในปี 2526 จึงบอกกล่าวตักเตือน เมื่อการเตือนนั้นไม่ได้ผล ในที่สุดเขาจึงอำลาจากวัดพร้อมความทรงจำข้อมูลเครือข่ายบุคคล

 

ดร.นพ.มโน เล่าข้อมูลสำคัญให้ฟังด้วยว่า ในพื้นที่วัดธรรมกายอันกว้างใหญ่ มี “เตาเผาพลอย” ซุกซ่อนอยู่ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลสำคัญให้หน่วยงานตรวจสอบตามรอยและค้นหาข้อเท็จจริงปม “ธุรกิจอัญมณี” ของนายสถาพร (อ้างว่าทำธุรกิจอัญมณีได้เงินจำนวนมากมาลงทุนธุรกิจ) และวัดธรรมกายให้ปรากฏสู่สาธารณะ

 

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ...เปิดข้อมูลลับ เส้นทางการเงิน "ธรรมกาย-ธัมมชโย-ศุภชัย-สถาพร" จากศรัทธาสู่แตกหัก  !!! (ติดตามรายละเอียด)

 

จากศรัทธาสู่แตกหัก ปมเจ้าอาวาสก่อตั้งบริษัทผ่าน “นอมินี”

@ คุณไปบวชเรียนที่วัดธรรมกายปีใด ?

มโน : ผมเข้าไปที่วัด ปี พ.ศ. 2517 อบรมธรรมทายาท รุ่น 3 ออกจากวัด ปี พ.ศ. 2538  

 

@ คุณออกมาเพราะอะไร ?

มโน : เรื่องสำคัญก็คือผมไม่เห็นด้วยกับวิธีหาเงินของวัด และไม่เห็นด้วยที่ท่านเจ้าอาวาสพยายามจะให้ผมเชื่อว่าท่านเป็นต้นธาตุ ต้นธรรม ก็เชื่อว่าท่านหลุดไปแล้ว ออกมาก็ไม่คิดว่าจะกลับไปอีก ผมก็ไปอยู่วัดราชโอรสฐาราม เงียบๆ

 

@ ตอนที่คุณอยู่ที่วัดธรรมกาย มีเหตุการณ์ใดบ้างไหมที่ทำให้เริ่มมองเห็นปัญหาด้านการเงิน ?

มโน : ปี 2526 เจ้าอาวาส เริ่มเอาเงินตัวเองมาลงทุน เป็นบริษัทโดยใช้ชื่อลูกศิษย์ บริษัทส่วนใหญ่ จะเริ่มต้น ด้วยตัว D อะไรต่อมิอะไร ให้ญาติโยมเป็นผู้บริหาร ท่านบอกว่านำเอาเงินมาสร้างพระพุทธศาสนา

ผมเคยเขียนจดหมายไปหาท่านว่าผมไม่เห็นด้วยที่ท่านเอาเงินมาทำแบบนี้ ท่านก็ตอบกลับมาว่า เป็นเรื่องส่วนตัวห้ามยุ่ง แล้วธุรกิจ ท่านก็ขยายไปเรื่อยๆ จากวันนั้น จาก 2 เป็น 3 บริษัท และขยายไปเรื่อยๆ ไม่หยุดตั้งแต่ปี 2526

 

@ การริเริ่มก่อตั้งบริษัทในครั้งนั้น มีคนเกี่ยวพันเยอะขนาดไหน กลุ่มใดบ้าง ?

มโน : เป็นลูกศิษย์วงในที่ยอมรับใช้ใกล้ชิด ทำทุกอย่าง  จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยอมทำแบบนั้น แล้วตัวเองก็ได้ประโยชน์ด้วย

 

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ...เปิดข้อมูลลับ เส้นทางการเงิน "ธรรมกาย-ธัมมชโย-ศุภชัย-สถาพร" จากศรัทธาสู่แตกหัก  !!! (ติดตามรายละเอียด)

ความสัมพันธ์ศุภชัย-ธรรมกาย

@ ทราบหรือไม่ว่าเมื่อใดที่นายศุภชัย เข้ามาข้องเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ?

มโน : ปี พ.ศ.2539 ในฐานะไวยาวัจกรวัด เขาเป็นคนที่มีทำประโยชน์ให้วัดเลยได้รับความไว้วางใจ ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยให้ปากคำไปแล้วที่ดีเอสไอ แล้วดีเอสไอก็มีรายละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ มีรายละเอียดว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 27 บริษัท ที่อยู่ในเครือข่ายของศุภชัย กระจายออกไปเป็นบัญชีเล็ก บัญชีน้อยเต็มไปหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีตำรวจมีข้อมูลในส่วนนี้แล้ว และทาง ปปง. ก็ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเช็คไปมูลนิธิต่างๆ ไปยังมูลนิธิของอุบาสิกาจัน หรือยายจัน ก็พบว่ามีเงินอยู่ตั้ง 3,000 กว่าล้านบาท

 

@ เป็นเงินในส่วนที่เกี่ยวพันกับการสร้างอาคารคุณยาย 100 ปี หรือไม่?

มโน : ใช่ครับ

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ...เปิดข้อมูลลับ เส้นทางการเงิน "ธรรมกาย-ธัมมชโย-ศุภชัย-สถาพร" จากศรัทธาสู่แตกหัก  !!! (ติดตามรายละเอียด)

 

เส้นทางเชื่อมโยงมงคลเศรษฐี-ยูเนี่ยนคลองจั่น

@ นายศุภชัยมีความเกี่ยวพันใดกับวัดธรรมกายหรือเจ้าอาวาสอีกหรือไม่ ?

มโน : กิจการของคุณศุภชัย ที่ตั้งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี จำกัด เกี่ยวพันกับคุณมานิต รัตนสุวรรณ ( *หมายเหตุ-นายมานิตเป็นอดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยุคอมรเรศ ศิลาอ่อน นายมานิตเป็นประธานกรรมการ บริษัทเมืองแก้วมณี โครงการบ้านและคอนโดมีที่ตั้งติดกับวัดธรรมกาย เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่  4 ก.พ. 2558) คือตอนนั้นคุณมานิต เพิ่งลงทุนสร้างคอนโดเมืองแก้วมณีขึ้นที่นั่น เป็นเงินหลายร้อยล้านบาท คุณมานิตก็ทำบุญให้วัด 1 ใน 3 ส่วนของกำไร ซึ่งเขาบอกว่าทำบุญให้วัด ไม่ได้ทำบุญให้หลวงพ่อธมมชโยนะ ให้ไป 1 ใน 3 ของกำไร แต่คอนโดก็มีปัญหาทางการเงินนิดหน่อยตอนที่คุณมานิตทำ เพราะมีการเกิดขึ้นของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีฯ ทำให้มีคนเอาเงินมาฝากที่วัดธรรมกายเยอะ เพราะสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีให้ดอกเบี้ยประมาณ 7-8 % ต่อปี แล้วที่มงคลเศรษฐีนี้ก็ปล่อยกู้ให้ผู้ที่จะมาทำบุญที่วัด ดอกเบี้ยร้อยละ 12 ส่วนต่างก็เยอะถึง 5% ให้เงินผ่อนกับคนจน แล้วหลายคนเขาก็อยากจะทำบุญใหญ่

 

ใครที่อยากทำบุญกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี สหกรณ์แห่งนี้ก็จะปล่อยให้ จึงกลายเป็นสหกรณ์ที่ก็ใหญ่ขึ้นๆ  เงินฝากเยอะขึ้น สมาชิกเยอะขึ้น ในที่สุดก็ทำเป็นมอลล์ แล้วก็มีปั๊มน้ำมัน ทำให้เกิดเป็นชุมชนขึ้นของมงคลเศรษฐี

 

@ มงคลเศรษฐี เชื่อมโยงกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นอย่างไร?

มโน : การเติบโตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี นี้ จริงๆ ศุภชัยเขาทำสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมาก่อน ก่อนเข้าวัดธรรมกาย แต่มันก็ไม่รุ่ง คนฝากก็น้อย กระทั่งเขามาทำที่นี่ก็ได้ลูกค้าเยอะขึ้น ก็เอาเงินไปให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จนใหญ่ หรู มีความน่าเชื่อถือ คนก็เอาเงินมาฝากกันเยอะขึ้น ลูกค้าเยอะขึ้น จำนวนหนึ่งก็เป็นลูกศิษย์วัดธรรมกายน่ะ ดอกเบี้ยเงินฝากก็สูงกว่ามงคลเศรษฐี เท่าที่ทราบ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี คนก็แห่มาฝาก 4 หมื่นกว่าคน ซึ่งอัตรา ดอกเบี้ยสูงมาก ก็ดึงเงินมาเยอะแยะเลย เป็นหมื่นล้านบาท เป็นเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจึงเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

@ พระธมมชโยเกี่ยวข้องอย่างไรกับสหกรณ์มงคลเศรษฐี ?

มโน : ตอนนั้น ท่านธมมชโย เป็นประธานที่ปรึกษาของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีโดยตรง ตอนนั้น มีโบรชัวร์เปิดตัววันแรกของสหกรณ์ฯมงคลเศรษฐี มีธมมชโย มีศุภชัย มีญาติโยม มีข้อมูลทำเป็นหนังสือออกมา เป็นหนังสือสูจิบัตรของสหกรณ์ แต่สหกรณ์ฯมงคลเศรษฐี ก็ถูกนำไปโปะให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ให้ด้านโน้นดูน่าเชื่อถือ สหกรณ์ฯ ยูเนี่ยนคลองจั่นก็ดูดี คนก็แห่ไปฝากกันเยอะ

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ...เปิดข้อมูลลับ เส้นทางการเงิน "ธรรมกาย-ธัมมชโย-ศุภชัย-สถาพร" จากศรัทธาสู่แตกหัก  !!! (ติดตามรายละเอียด)

เส้นทางการเงิน-มูลนิธิ-วัดธรรมกาย

@ ในวัดธรรมกาย มีทั้งสิ้นกี่มูลนิธิ ?

มโน : ตอนที่ผมอยู่มีแค่มูลนิธิเดียว คือมูลนิธิวัดธรรมกายเท่านั้นเอง ตอนหลังผมก็ทราบว่าท่านเจ้าอาวาสไปเปิดอีกหลายมูลนิธิหลังจากคดีที่ท่านถูกฟ้องร้องแล้ว ท่านก็กระจายเงินออกไปอีกหลายส่วน หมายถึงตอนที่ท่านถูกฟ้องร้อง ปี 2542 แล้วคืนเงินปี 2549 ห่างกันตั้ง 6-7 ปี

 

@ คุณทราบหรือไม่ว่าที่ดินของวัดพระธรรมกาย มีเท่าไหร่แน่ ?

มโน : มีเยอะมาก เพราะเจ้าอาวาส เคยทำผ้าป่าที่ดิน ใครอยากเอาที่ดินมาถวายหลวงพ่อ ก็มีคนเอาที่ดินมาบริจาคเยอะแยะไปหมด เชียงใหม่ ศรีสะเกษ ที่ชายทะเลแถบชุมพรเรื่อยลงไปก็มี กาญจนบุรีก็มี ที่ดินบางแห่งมีนับพันไร่ มีทั้งชื่อเจ้าอาวาสและชื่อลูกศิษย์

 

@ เส้นทางการเงิน นอกจากศิษย์ใกล้ชิด คนใกล้ชิด มีการแบ่งกลุ่มอย่างไรอีก ?

มโน : ก็ตอบลำบาก เพราะมีเพียงธมมชโยที่รู้ว่าใครควรจะอยู่ตรงไหน ท่านทำธุรกิจเยอะมาก ไปประเทศไหน ก็กู้ระดมทุนตลอดเวลา

 

ความเชื่อมโยง ธมมชโย-ศุภชัย-สถาพร

@ ทราบความเป็นมาของนายสถาพรขณะบวชเป็นพระที่วัดธรรมกายหรือไม่ ?

มโน : สถาพรเพิ่งมาเข้าปี พ.ศ.2537-2538 เป็นช่วงที่ผมออก แต่ทราบว่าเขาอยู่ในวัด 19 ปี เรียนอยู่และรับใช้พระผู้ใหญ่ ข้อมูลคุณสถาพร เท่าที่ผมทราบ เขาเป็นเณรมาจากนครสวรรค์ ครอบครัวยากจน แล้วก็มาเรียนบาลีหลักสูตรสามัญที่วัดธรรมกาย เขาอยู่ในวัด 19 ปี เขาเรียนปานกลาง และรับใช้ท่านสมชาย ฐานวุฒิโท ที่เป็นผู้อำนวยการสำนัก แล้วก็รุ่นนั้นเป็นรุ่นแรกเลยที่เปิดหลักสูตร แล้วเขาก็เรียนอยู่ในวัดตลอด แล้วก็เป็นที่รู้จักไว้ใจของพระเถรผู้ใหญ่ในวัด ตัวเขาเอง คงไม่รู้จักกับคุณศุภชัย เพราะวัดใหญ่มาก ขณะที่คุณศุภชัยเองก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับ หลวงพ่อทัตตชีโว มากกว่าหลวงพ่อธมมชโย

 

@ ถ้าเช่นนั้นพระธมมชโย นายศุภชัยและนายสถาพร เกี่ยวกันอย่างไร เนื่องจากบัญชี ที่นายศุภชัยโอนมาที่วัดพระธรรมกาย มีบัญชีของสถาพรด้วย ?

มโน : ใช่ แต่ตอนนั้น สถาพรเขายังเป็นเณรอยู่ ซึ่งศุภชัยก็เป็นคนของวัด แล้วออกมาทำงานให้วัดในเชิงเป็นโครงการลับ เพื่อมารับเงินโดยเฉพาะ แล้วผ่องถ่ายเงินเข้าไปในแหล่งต่างๆ เครือข่ายของ ธมมชโย แล้วก็จริงๆ แล้ว คนรับเช็คจากนายศุภชัยมีเยอะมาก พระมนตรีหรือนายสถาพรนี่ก็ไม่ใช่คนที่ศุภชัยจะไว้ใจได้ง่ายๆ นอกจากจะมีการรับรองจากเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส ผู้ที่รับไปก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ

 

ธรรมกาย ซุกเตาเผาพลอยไว้ในวัด

@ : สถาพรอ้างว่า เงินของเขาได้มาเนื่องจากเขาทำธุรกิจค้าอัญมณี คุณทราบข้อเท็จจริงในส่วนนี้หรือไม่ ?

มโน : ถ้าเขาทำธุรกิจตั้งแต่เป็นเณรก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ จะเอาเงินไหนมาทำ แต่ในวัดธรรมกายมีเตาเผาพลอย

 

@ : คุณหมายถึงในวัดธรรมกายที่รังสิต ปทุมธานี ?

มโน : ครับ วัดธรรมกายที่รังสิตนี่มีเขตหวงห้าม เป็นที่สำหรับเผาพลอย มีพระเป็นคนเผา เป็นผู้ใช้แรงงาน ลองเข้าไปตรวจสอบดู พระพวกนี้ก็มีสุขภาพแย่ลง บ้างก็เป็นโรคปอดเพราะสูดควันเหล่านี้เข้าไป วัดธรรมกายมีเตาเผาพลอย มีพลอยเยอะแยะ เจ้าอาวาสหามาจากไหนไม่รู้ เยอะแยะไปหมด ผมได้ข่าวมาว่าพระที่ต้องมาใช้แรงงานที่เตาเผาก็สูดดมสารพวกนี้เข้าไป แต่เตาเผาพลอยนี้คนนอกไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงได้ยาก และลักษณะก็มีการพยายามทำให้ดูเหมือนเตาเผาขยะ

 

ปริศนา อาคารคุณยายร้อยปี ที่ธรณีสงฆ์หรือไม่

@ เรื่องที่ดินของอาคารคุณยายร้อยปีที่ใช้งบสร้างกว่า 3,000 ล้านบาท สรุปอยู่ในเขตวัดหรือเป็นที่ธรณีสงฆ์หรือไม่ ?

มโน : ไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในวัด อยู่นอกวัด

 

@ แต่อาคารที่ว่านี้ก็อยู่ในกำแพง ?

มโน : วัดพระรรมกายมีกำแพงสองชั้น ตัววัดเองมี 196-197 ไร่ ด้านหนึ่งติดถนนคลองสอง คลองสาม ปทุมธานี แล้วเลยไปก็มีด้านหลังมีกำแพงรั้วยาวใหญ่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งด้านนอกกำแพงที่มีตัววัด ยังมีส่วนของมูลนิธิซึ่งคนละเจ้าของกันกับวัด  ส่วนที่จดทะเบียนเป็นวัด เพราะกฎหมายกำหนดว่า เจ้าอาวาส ถูกปลดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มูลนิธินี่ใครมาปลดไม่ได้ เพราะฉะนั้น แม้มีสมภารอื่นมาแทน เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ก็ยังครองมูลนิธิที่ใหญ่กว่า

 

ทั้งหมดนี่ คือคำบอกเล่าจากอดีตพระวัดธรรมกายรายนี้อาจจะพอเชื่อมต่อถึงภาพรวม ที่มาที่ไปของแต่ละตัวละครได้มากขึ้น ส่วนรายละเอียดในเชิงลึกถึงระดับเครือข่าย ขบวนการอื่นๆ รวมทั้งเส้นทางเงินที่ถูกแบ่งย่อยไปยังเช็คและบัญชีต่างๆ อย่างละเอียดนั้น ยังคงเป็น ‘จิ๊กซอว์’ สำคัญที่หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ต้องเสาะแสวงหาและตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป