อะไรเป็นที่มา...ที่ทำให้ทั้ง 2 คนนี้ต้องโคจรมาเจอกันที่ศาล...?

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

9 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ นายจตุพร พหรมพันธุ์ แกนนำ นปช.ฟ้อง นายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตดารานักแสดง กับพวกรวม 7 คน หมิ่นประมาท กรณีที่นายเมธี กล่าวหมิ่นประมาทว่านายจตุพรว่า โกงเงินบริจาคของกลุ่ม นปช.เป็นจำนวนเงิน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้หญิงขณะอยู่บนชายหาด รวมทั้งกล่าวหาว่าถูกนายจตุพรข่มขู่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.53

 

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายเมธี 2 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 66,666 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยร่วมอีก 6 คน พิพากษายกฟ้อง และเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้ออกหมายจับนายเมธี เนื่องจากไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด

นายเมธี ระบุว่า ตัวเองอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ คดีที่ นปช.ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้าย และไม่ทราบนัดในครั้งก่อน แต่เมื่อทราบว่าถูกออกหมายจับเจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวเองเข้ามอบตัว และศาลถอนหมายจับแล้ว โดยนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้งในวันนี้ ซึ่งจำเลยทั้งหมดเดินทางมาศาล

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์บันทึกคำถอดเสียงของนายเมธี จำเลยที่ 1 แล้วเห็นว่า เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ส่วนที่นายเมธี อุทธรณ์ว่าข้อความดังกล่าวเป็นความจริง เนื่องจากตลอดการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ไม่มีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายเงินบริจาค แต่นายเมธีก็ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าโจทก์นำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว

 

และ นายวัชระ เพชรทอง จำเลยที่ 4 อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังได้นำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ผ่านบทความของตัวเอง ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่ใช่การติชมด้วยความเป็นธรรม หรือการแสดงความคิดเห็น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนายวัชระ จำเลยที่ 4 ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษาแก้ให้จำคุกนายเมธี จำเลยที่ 1 และนายวัชระ จำเลยที่ 4 คนละ 2 ปี ปรับคนละ 1 แสนบาท แต่คำเบิกความเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับ 66,666 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และยกฟ้องจำเลยที่เหลือ ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์และผู้จำหน่าย เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าร่วมกับนายเมธี จำเลยที่ 1 กระทำผิด และให้จำหน่ายคดี บริษัท เอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด จำเลยที่ 5 ออกจากสารบบความ เนื่องจาก โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ในเวลาที่กำหนด

ภายหลัง นายเมธี กล่าวว่า ส่วนตัวอยากจบเรื่องดังกล่าว แต่ในส่วนคดีก็ต้องสู้ต่อไป โดยจะปรึกษากับทนายความถึงรายละเอียดก่อน ขณะที่ นายวัชระ กล่าวว่า ขอน้อมรับคำพิพากษา แต่จะใช้สิทธิยื่นฎีกาต่อไป