กกต.ไฟเขียว "สุเทพ-จตุพร" จ้อเฟซบุ๊กไลฟ์  แต่ต้องไม่บิดเบือน กล่าวเท็จ จูงใจไปทางใดทางหนึ่ง

ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

กกต.ไฟเขียว "สุเทพ-จตุพร" จ้อเฟซบุ๊กไลฟ์  แต่ต้องไม่บิดเบือน กล่าวเท็จ จูงใจไปทางใดทางหนึ่ง

นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.และ นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. พูดเรื่องร่างรัฐธรรมนูญผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวผ่านช่องทางใดก็แล้วแต่ ไม่มีอะไรผิด แต่ก็ต้องรับผิดชอบว่าต้องแสดงความคิดเห็นโดยไม่ใช้ข้อมูลเท็จ ไม่บิดเบือน ไม่ข่มขู่ให้คนออกเสียงไปในทางใดทางหนึ่ง ทั้งนี้คิดว่าการแสดงความคิดเห็นเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการตัดสินใจออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

 

ส่วนการแสดงความเห็นในข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญอย่างเดียวจะเป็นการชี้นำหรือไม่นั้น นายประวิช กล่าวว่า ไม่ว่าใครที่ออกมาแสดงความคิดเห็นหากอยู่บนข้อเท็จจริง เป็นไปด้วยความสุจริต ก็ไม่มีความผิด แต่คนที่จะตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิดก็คือศาล อย่างไรก็ตามหากประชาชนเห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประชามติ ทุกคนก็มีสิทธิที่จะแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษได้ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่สุ่มเสียงที่เราบอกมาตลอด

ส่วนกรณีนักศึกษาที่แจกใบปลิวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและถูกจับกุมนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหรือเป็นการรณรงค์ และนอกจากความผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติแล้ว ก็อย่าลืมว่ายังมีกฎหมายอย่างอื่น อาทิ คำสั่ง คสช.เรื่องการชุมนุมเกิน 5 คน ที่บังคับใช้อยู่

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินในเรื่องมาตรา 61 วรรคสอง ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ กกต.มีความกังวลหรือไม่ นายประวิช กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะมาตรา 61วรรคสองเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของ พ.ร.บ.ประชามติ และยังมีมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้มีปัญหา และทำให้การทำประชามติสามารถเดินหน้าต่อไปได้

 

กกต.ไฟเขียว "สุเทพ-จตุพร" จ้อเฟซบุ๊กไลฟ์  แต่ต้องไม่บิดเบือน กล่าวเท็จ จูงใจไปทางใดทางหนึ่ง