"พล.อ.ประยุทธ์" ย้ำชัด ไม่มีใครสั่งยึดอำนาจ มีแต่ประชาชนจะให้ทำหรือเปล่า

ติดตามข่าวสาร ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

"พล.อ.ประยุทธ์" ย้ำชัด ไม่มีใครสั่งยึดอำนาจ มีแต่ประชาชนจะให้ทำหรือเปล่า

29 มิ.ย. 59 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พารากอนฮอล์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2559 Go Wild For Life: หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดฆ่า แก้ปัญหาสัตว์ป่าสูญพันธุ์ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า การดูแลรักษาสัตว์ป่าเราต้องคำนึงถึงว่าสัตว์แต่ละตัวกว่าจะโตได้ต้องใช้เวลานานเท่าไร ที่ผ่านมาสัตว์ชนิดใดสวยงาม หรือมีคุณค่าก็จะถูกล่าเกือบทั้งหมด จึงอยากขอร้องถ้าอยากได้สารอาหาร หรืออะไรที่เป็นประโยชน์ก็ไปซื้อวิตามินกิน ดีเสื้อ ดีหมี หรืออะไรก็ตาม เขาก็เป็นชีวิตหนึ่งเหมือนมนุษย์ มีครอบครัวจะได้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เราต้องยุติปัญหาต่างๆ ให้ได้ และไม่สร้างปัญหาใหม่ในอนาคต ต้องช่วยกันไม่ให้สัตว์ป่ามีจำนวนลดลง เพราะปกติสัตว์ป่ามันลดลงเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว คนยังจะตามไปกินมันอีก ทั้งที่มีของกินมากมาย ขอร้องคนที่ชอบสะสมของหายาก หายาชูกำลัง จะต้องหยุด จากนี้ไปร้านอาหารป่าต่างๆ จะต้องไม่มี และต้องไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าอย่างไร สัตว์ป่าประเภทใดบ้างที่ค้าขาย หรือทำอาหารได้ การที่ช้างเข้ามาบุกรุกในเขตชุมชนเพราะป่าน้อยลง อาหารก็น้อยลง จึงไม่รู้ว่าใครแย่งอาหารใครกันระหว่างคนกับช้าง ก็ต้องมาหาวิธีการว่าทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน วันนี้ทั้งป่าไม้และสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะเสือโคร่ง ตัวนิ่ม งาช้าง ล้วนเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์

 

นายกฯ กล่าวว่า ต้นไม้ตัดกันเข้าไป สังคมยอมรับคนเหล่านี้ได้อย่างไร คนที่โกง ทุจริต ทำลายป่า ทำผิดกฎหมาย ทุกคนนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไร มีช่องทางแจ้งความก็ขอให้ไปแจ้งความ ไม่ต้องไปกลัว หรือมาแจ้งที่ตนได้เลย ใครมีอิทธิพล ใครขี้โกงมาบอกตน หรือที่ศูนย์ดำรงธรรม หากไปพูดข้างนอกไม่เกิดประโยชน์อะไร สังคมก็ปั่นป่วนทุกเรื่อง เพราะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เพราะปัญหาเยอะเกินไป ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าไม่เข้าก็ไม่ต้องมาพูดกัน

การสร้างความเข้าใจมันอยู่ที่วิธีการทำอย่างไรให้เข้าใจสิ่งที่ตนพูด ไม่ใช่สุดโต่งขวาสุด สุดโต่งซ้ายสุด อยู่ตรงกลาง วันนี้การทำงานของเราสั่งแล้วต้องทำ พอถามบอกว่าทำระดับหนึ่ง ฉะนั้นรัฐบาลนี้ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าช่วงเวลา 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน จะทำอะไร ต้องแก้ปัญหาให้ได้ มีแผนงาน นี้การทำงานปฏิรูป ถ้าทำแบบเดิม ตนก็ไม่จำเป็นต้องมายืนตรงนี้ คนไทยโชคดีมีพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีพระเนตรยาวไกล ตลอด 70 ปีการครองราชย์ มีพระชนม์มายุ 88 พรรษาและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถมีพระชนมายุ 84 เราได้ทำอะไรถวายท่านครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ยังทำไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนมีภาระหน้าที่คนละอย่างกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยตรัสว่า ถ้าทุกคนทำหน้าที่ตัวเองดีขึ้น ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่มักทำหน้าที่คนอื่น หน้าที่ตัวเองไม่ค่อยทำ ตรงนี้ต้องแก้ไข สังคมต้องเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นจะรบกับปัญหาเหล่านี้ สังคมเป็นแบบนี้มาสิบกว่าปีแล้ว สังคมที่สร้างความขัดแย้ง เพราะมีผู้นำที่ออกมาสู้กันแบบนี้ ผมไม่ต้องการให้มานำใครให้รบกับใคร ต้องเชื่อใจกัน ใครผิดต้องลงโทษ ไม่ใช่เหมาจ่ายว่านั้นเลวหรือดีไปทั้งหมด เพราะคนเป็นมนุษย์ ใครไม่ดีเอาออกไป ถ้าไม่ร้ายแรงทำให้เขาเป็นคนดี เว้นแต่เขาไม่อยากจะดีแล้ว

        

"สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ท่านทรงทำมาตลอด ท่านไม่เคยมายุ่งกับการเมือง ผมกราบเรียนท่านทุกคน ไม่มีใครมาสั่งผม ผมสั่งตัวผมเอง พูดด้วยสัตย์จริง ไม่มีใครสั่งผมได้ทั้งนั้น ใครจะมาสั่งผมได้ สั่งให้ผมยึดอำนาจ สั่งให้ผมปล่อยอำนาจ ไม่มีใครสั่งผมได้ มีแต่ประชาชนจะให้ทำหรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้ทำจะได้เลิก แล้วกลับไปอยู่ที่เดิม ฉะนั้นทุกคนสามัคคี ดังนั้นเจตนารมณ์ของพระองค์ท่าน"นายกฯ กล่าว