หญิงไก่เจอตรวจสอบอย่างหนัก ...ส่อแววอาจเป็นขบวนการ ค้ามนุษย์ หรือไม่

หญิงไก่เจอตรวจสอบอย่างหนัก ...ส่อแววอาจเป็นขบวนการ ค้ามนุษย์ หรือไม่

อีกหนึ่งคดีดังที่กลายเป็นทอคออฟเดอะทาวน์ของสังคมอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ คดีหญิงไก่นายจ้างแจ้งจับเด็กนักเรียนหญิงวัย 17 ปี พร้อมครอบครัวในข้อหาลักทรัพย์นายจ้างถึง 10 ล้านบาท ซึ่งสังคมได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

เนื่องจากยังเคลือบแคลงและสงสัยถึงข้อประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นหลักฐานที่มาที่ไปของทรัพย์สินมูลค่า 10 ล้านบาท รวมทั้งหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่ยังไม่มีความชัดเจน  ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอออกหมายจับหญิงไก่

พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับ นางไก่ อดีตนายจ้างนายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื้อง และนางสาวประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย อดีตลูกจ้าง ในข้อหาแจ้งความเท็จ อยู่ระหว่างศาลพิจารณาซึ่งหากศาลออกหมายจับ แล้วตำรวจก็จะดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนต่อไป

 

ทั้งนี้ในเวลาต่อมาศาลอาญาได้ยกคำร้อง ตร.กองปราบ ขอออกหมายจับ หญิงไก่ คดีแจ้งความเท็จ โดยให้เหตุผลว่าผู้ถูกกล่าวหา ยังมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มาให้สัมภาษณ์สื่อต่อเนื่อง ควรออกหมายเรียกมาสอบสวนก่อน

ขณะเดียวกันหลังจากที่  ศาลอาญาได้ยกคำร้อง ตร.กองปราบ ขอออกหมายจับ คดีแจ้งความเท็จ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่  ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในทันทีว่าไม่ได้มีพฤติการหลบหนี แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ นั่นคือการรื้อสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่นขึ้นมาตรวจสอบ ย้อนไปตั้งแต่ปี 2555

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เดินทางมาตรวจสำนวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับนางมณตรา หยกรัตนกาญ โดยจะมาตรวจรายละเอียดของสำนวนคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ที่มีทั้งหมด 9 คดี แบ่งเป็นคดียักยอกทรัพย์ 3 คดี ฉ้อโกง 1 คดี ทำให้เสียทรัพย์ 1 คดี และลักทรัพย์ 4 คดี สำหรับสำนวนทั้ง 9 คดีนั้นขณะนี้เหลือเพียงสำนวนคดียักยอกทรัพย์เพียงคดีเดียว ที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมสรุปสำนวนส่งให้ทางพนักงานอัยการ

 

ทั้งนี้ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าในส่วนพนักงานสอบสวนเองมีข้อบกพร่องตรงไหนหรือไม่ รวมไปถึงพยานหลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินการต่อผู้กระผิดได้หรือไม่เช่นกัน

ขณะที่ พ.ต.อ.ชาคริต รองผบก.ป. เปิดเผยว่า ได้เชิญร.ต.ท.ดวงสิทธิ์ เหง้าสุสิทธิ์ รองสารวัตร(สอบสวน)สน.ประชาชื่น เข้าให้ปากคำในสำนวนคดีที่นางมณตา แจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า และครอบครัว  โดยรายละเอียดในการสอบปากคำเป็นเรื่องของการทำสำนวนในคดีดังกล่าว ทั้งการสอบปากคำรวมถึงการรวบรวมพยานหลักฐาน คำให้การของร.ต.ท.ดวงสิทธิ์ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และพบว่าขั้นตอนการดำเนินการในส่วนของสำนวนที่ร.ต.ท.ดวงสิทธิ์ ทำคดีนั้นเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่และพยานหลักฐาน ไม่ได้บกพร่องหรือมีข้อผิดพลาดแต่อย่างใด นอกจากนี้ตรวจสอบพบอีก 1 คดีที่นางไก่แจ้งความอดีตลูกจ้าง เป็นเด็กต่างด้าว อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นสัญชาติใด เบื้องต้นทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีและระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิดที่มีลักษณะคล้ายกับกรณีอื่นๆ

ส่วนอีกฝั่เดินหน้า ยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขอปล่อยชั่วคราว นางสุกัญญา และได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เพื่อขอบคุณที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะให้ความคุ้มครองเหยื่อที่เป็นเด็ก พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยขณะนี้มีเด็กที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี อยู่ จำนวน 3 ราย

นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นำคำร้องพร้อมหลักทรัพย์กองทุนจากกระทรวงยุติธรรม ยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขอปล่อยชั่วคราว นางสุกัญญา ศิริม่วง อายุ 54 ปี จำเลยในคดีลักทรัพย์เป็นเงินสดและทรัพย์สินมีค่าหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ของ นางไก่ อดีตนายจ้าง

จะยื่นคำร้องประกอบการขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งมีรายละเอียดถึงพฤติกรรมของนางไก่ และขอถอนคำให้การเดิมของ นางสุกัญญา และจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบข้อพิรุธเกี่ยวกับ นางไก่ อาทิ พบหญิงคล้ายนางไก่ ใช้ชื่อว่าน้ำอ้อย นำทองคำปลอม ไปจำนำและถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พบคดีความที่มีผู้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ นางไก่ ที่ศาลล้มละลายกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กรณีดังกล่าว รวมถึงมีคลิปจากกล้องวงจรปิดที่พบว่า นางไก่ มีพฤติกรรมรุนแรงกับหญิงคนหนึ่งภายในห้องพัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในห้องพักของ นางไก่ มีกล้องวงจรปิด แต่ไม่ได้นำมาแสดง และจะมีการเปิดเผยคลิปดังกล่าวในภายหลัง ส่วนตัวเองนั้นยังถูกโทรศัพท์ข่มขู่ อีกด้วย

ด้าน นางสาววณิชยา บุ้นสุนเฮง หรือ น้องมีน ระบุว่า มารดาถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2558 ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และเมื่อทราบว่ากรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและกระทรวงยุติธรรม ให้การช่วยเหลือมารดาก็ดีใจและมีกำลังใจที่ดีขึ้น

ต่อมา นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และในฐานะทนายความของเหยื่อที่ถูกหญิงไก่ แจ้งความในข้อหาลักทรัพย์ นำนางสาวประภาวรรณ ใจกล้า พร้อมด้วยบิดา-มารดา และนางสาวจันทนา คชคงไคย หรือ หนูนา และสามี เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เพื่อขอบคุณที่ พม.ให้การช่วยเหลือด้านที่พักให้ผู้เสียหายในระหว่างต่อสู้คดีที่กทม. และขอให้คุ้มครองผู้เสียหายที่ถูกข่มขู่จากหญิงไก่

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ระบุว่า สำหรับคดีดังกล่าวนั้น ตนได้ประสานหน่วยงานกระทรวงยุติธรรมถึงคดีที่เกิดขึ้น ส่วนจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ทาง พม.ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานในกระทรวง เพื่อตรวจสอบต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งทราบแล้วว่ามีผู้เสียหาย 3ราย หลังจากนี้จะมีการเยียวยาผู้เสียหาย โดยในส่วนของหนูนา ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาหลังถูกคุมขังมาเกือบ 2 ปี

และดูเรื่องจะบานปลายหรือไม่ เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตุว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบไปถึงขบวนการค้ามนุษย์

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนางมณตา ว่า หากกระบวนการยุติธรรมวินิจฉัยแล้วพบว่ามีความผิดจริงในเรื่องหญิงไก่แจ้งความเท็จ ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบทรัพย์สินว่าเกี่ยวโยงกับการค้ามนุษย์หรือไม่ หากพบว่ามีความเกี่ยวโยงควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอายัดทรัพย์สินและให้ผู้ต้องหาพิสูจน์การได้มา และต้องให้ผู้ที่กำลังถูกจำคุกได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ต้องหาและครอบครัว

อีกหนึ่งกรณีที่ถูกพูดถึง นั่นคือกรณีการออกพาสปอร์ตข้าราชการ ให้กับนางมณตา  ซึ่งออกสมัย ทำงานให้สำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 ในตำแหน่งคณะทำงานของเลขานุการรัฐมนตรี

มีรายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรีมีหนังสือถึงกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ออกพาสปอร์ตข้าราชการ ให้นางมณตาในตำแหน่งคณะทำงานของเลขานุการคณะรัฐมนตรีเป็นเวลา 2 ปี จากปกติ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 หมดอายุวันที่ 22 มี.ค.2559 เพื่อเดินทางไปราชการทอดผ้าป่าที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวชี้แจงขั้นตอนการขอหนังสือเดินทางราชการว่า การขออนุมัติหนังสือเดินทางราชการของหน่วยราชการใด จะต้องส่งเรื่องไปที่กรมการกงสุล ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง โดยมีอธิบดีกรมการกงสุลเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้อนุมัติ โดยเรื่องดังกล่าวจะไม่ถึงตัวรัฐมนตรีประจำกระทรวง และยืนยันว่าไม่รู้จักนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ "หญิงไก่" ที่เป็นกระแสข่าวขณะนี้

 

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และหากนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ มีหลักฐานเรื่องนี้จริง ขอให้พิสูจน์มา อย่ากล่าวหากันลอย ๆ