เจริญกันทั้งหมดนั่นแหละครับ!!!...เขาจ่ายเงินซื้อตำแหน่งตร.กันแบบนี้ พอชื่อหลุดโผ ก็แจ้นมาประจาน น่าสมเพสเป็นที่สุด!?!...

เจริญกันทั้งหมดนั่นแหละครับ!!!...เขาจ่ายเงินซื้อตำแหน่งตร.กันแบบนี้ พอชื่อหลุดโผ ก็แจ้นมาประจาน น่าสมเพสเป็นที่สุด!?!...

ฉาวโฉ่วงการตำรวจ หลังวิ่งเต้นไม่สมหวังชื่อหลุดโผ ร.ต.อ. รอง สว.จราจร พร้อมเมีย เดินขึ้นโรงพักบางซื่อแจ้งความจับเพื่อน ร.ต.อ.ไม่คืนเงิน 7 แสนบาท ค่าวิ่งเต้นซื้อตำแหน่งเป็นสารวัตร แฉหอบเงินไปจ่ายกันถึงในปั๊ม ต่อมาเจ้าตัวต้องยอมคืนแต่เรื่องไม่จบ "ศานิตย์ มหถาวร" รรท.ผบช.น. รู้เรื่องควันออกหู สั่งท้องที่รายงานด่วน จ่อเอาผิดผู้เสียหายด้วย ยันเป็นคดียอมความไม่ได้แม้จะคืนเงินกันแล้ว

 

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.โรงพักแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทาง พ.ต.ต.หญิง จิราพร มณฑลทอง สว. (สอบสวน) สน.บางซื่อ โดยกล่าวหาว่า ร.ต.อ.โรงพักอีกแห่งหนึ่ง ทำการเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน ทั้งนี้ทาง ร.ต.อ.โรงพักแรก กล่าวหาทำนองว่าทาง  ร.ต.อ.คู่กรณี ได้อ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สามารถทำให้ตนเอง ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสว.จร.ได้ จึงหลงเชื่อได้ให้ภรรยานำเงินสด 700,000 บาท ไปมอบให้ ร.ต.อ.คู่กรณี ที่ปั๊มน้ำมันปตท.ร.1 รอ. ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าพอมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายออกมา ทาง ร.ต.อ.โรงพักแรก กลับไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสารวัตรตามที่ต้องการแต่อย่างใด ยังคงเป็นรองสารวัตรอยู่ที่ต้นสังกัดเดิม จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางซื่อดังกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า สั่งการให้ พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมให้พนักงานสอบสวนรายงานความผิดทางวินัยให้กับหน่วยงานต้นสังกัดของนายตำรวจผู้ถูกกล่าวหา
ตาม ม.143 เป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตรวจสอบผู้เสียหายด้วยว่าเข้าข่ายกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ที่กระทำการที่ใช้วิธีการวิ่งเต้นตำแหน่งให้ได้เป็นสารวัตรโดยใช้วิธีมิชอบ โดยทำเรื่องรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับชั้นอย่างเร่งด่วน

ทางพล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ทั้งคู่ได้ตกลงคืนเงินทั้งหมดให้กันแล้ว ส่วนที่จะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการวิ่งเต้นโยกย้ายนั้นคงไม่มี แต่เป็นการแอบอ้างขึ้นมาเอง ก่อเหตุเองเพียงคนเดียว ซึ่งเมื่อมีการแจ้งความแล้ว ทางร.ต.อ.ที่แอบอ้าง จะต้องได้รับโทษทางวินัยและทางอาญา ส่วนร.ต.อ.โรงพักแรก ก็จะสอบสวนโดยละเอียด เพราะต้องทราบดีอยู่แล้วว่า การโยกย้ายดำรงตำแหน่งนั้น ไม่สามารถใช้เงินวิ่งเต้นได้ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมวิ่งเต้น ซึ่งตนได้ติดต่อทั้งสองฝ่าย ให้เดินทางมาที่สน.บางซื่อ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ได้ตอบตกลงว่า จะเดินทางมาที่สน.วันไหน

ทั้งนี้นายตำรวจทั้งสองมีความรู้จักสนิทสนมกัน เนื่องจากเป็นเพื่อนนักเรียนพลตำรวจของกองบัญชาการตำรวจนครบาลรุ่นเดียวกัน คือ รุ่น76 จึงสามารถที่จะพูดคุยตกลงกันได้ สำหรับการซื้อขายตำแหน่ง หรือวิ่งเต้นการโยกย้ายตำรวจ เกิดกระแสข่าวลือในทุก ๆ ครั้งที่มีการโยกย้ายของแต่ละระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับ รองผบก.-สารวัตร ที่ผ่านมา แต่ไม่พบพยานหลักฐานหรือบุคคลที่เป็นผู้วิ่งเต้น หรือโยกย้าย หรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งในคดีนี้ที่สน.บางซื่อ ถือเป็นคดีแรกที่มีการแจ้งความจับกุมระหว่างผู้ที่ต้องการโยกย้าย หรือ ผู้จ่ายเงิน กับผู้ที่เป็นคนวิ่งเต้น และอีกทั้งยังเป็นตำรวจด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งต้องสอบถามความชัดเจนเรื่องคดีกับพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ รวมถึงระดับ บก.น.2 ระดับ บช.น.และระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปว่า จะมีการสอบสวนแจ้งข้อหาหรือตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวอย่างไรต่อไป และจะตรวจสอบในตำแหน่งต่าง ๆ ทั้งหมดของโครงสร้างหรือไม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกปกปิดมานานแต่มีการนำมาเปิดเผยเป็นคดีความ ก็ต้องรอการดำเนินการของฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

 

อย่างไรก็ดีวันนี้ 12 ก.ค. ในเวลา 09.00 น. ตนจะเดินทางไปตรวจสำนวนคดีนี้โดยละเอียดเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

 

ที่มา เดลินิวส์