ลุยเลยครับนาย!!!...ม.44ไม่ได้มาเล่นๆ เช็คด่วน สปก.ปักป้ายยึดล็อตแรก13จว.เป็นแสนๆไร่ นักการเมืองโผล่เอี่ยวอื้อ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ถึงความคืบหน้าการเตรียมปฏิบัติการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ที่ถูกครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายว่า ปัจจุบันมีผู้ครอบครองรายใหญ่ 5 กลุ่ม คือ นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองระดับท้องถิ่น ผู้มีอธิพล กลุ่มนายทุนเศรษฐี และกลุ่มที่เคยทำสัมปทานป่าไม้ เช่น พวกหัวหน้า คนงานตัดไม้

ทั้งนี้เชื่อว่า กลุ่มนักการเมือง นายทุน และผู้มีอิทธิพล ที่ครองครองที่ดิน ส.ป.ก. เกิน 500 ไร่โดยมิชอบ อาจไม่ยอมเข้ากระบวนการเรียกคืนที่ดิน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 โดยจะไม่ยอมปรากฎตัวและเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิการถือครอง ซึ่งถ้าไม่มาก็ไม่มีปัญหาอะไร ส.ป.ก.จะดำเนินการยึดที่ดินมาจัดสรรให้เกษตรกรทันที

“ที่ผ่านมา การข่าวในพื้นที่แจ้งมาตลอดว่า ที่ดินของ ส.ป.ก. ถึงนักการเมืองทุกระดับถือครองกว่า 50% และยังมีที่ดินที่ ส.ป.ก. ยังไม่ได้ทำการรังวัดกว่า 2 ล้านไร่ กำนันผู้ใหญ่บ้านไม่รับรอง เจอผู้มีอิทธพลก็ไม่กล้ารายงานชื่อ วันนี้จึงขอใช้ ม.44 มาแก้ปัญหาไปสู้กับฝ่ายการเมือง ช่วงนี้เป็นโอกาสเหมาะมาทำปัญหาปลายทางให้เข้าสู่กระบวนการ”

เลขาสปก. กล่าวต่อว่า เวลานี้ทำแผนที่เป้าหมายที่มีการบุกรุกถือครองเกิน 500 ไร่ ที่จะยึดคืนเสร็จแล้ว 125 แปลง รวม 116,266 ไร่ ใน 12 จังหวัด ประกอบด้วย กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี กาญจนบุรี ตราด ลพบุรี กระบี่ ชุมพร ยะลา สุราษฎาธานี เป็นเป้าหมายแรกที่เข้าปักป้ายยึดครอง โดยให้ทางจังหวัดเปิดทำการทุกวันในช่วงวันหยุดเข้าพรรษา 5 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือครองมาแจ้งคำร้องยื่นเอกสารต่างๆให้เกิดความเป็นธรรม ตามเงื่อนเวลา เริ่มจากส.ป.ก.ไปติดประกาศ 15 วัน เจ้าหน้าที่พิจารณาเอกสาร 30 วัน บางแปลงอาจใช้เวลาเพียง 2 วัน ก็ยึดคืนได้ เพราะได้สำรวจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็จะเร่งดำเนินการทันที โดยคาดว่าจะสามารถทำแผนที่ของพื้นที่เป้าหมายทั้ง 422 แปลงเสร็จภายในสัปดาห์นี้ โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตร จะเดินทางไป จ.นครราชสีมา วันที่ 15 กรกฎาคม เพื่อปักป้ายแผนที่ใน อ.ปากช่อง ซึ่งมีปัญหานักการเมืองและอิทธิพลในพื้นที่มาก และถือเป็นการคิ๊กออฟดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ

นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 20 กรกฎาคม จะเริ่มเดินหน้าเรียกคืนที่ดินล็อตที่สอง ซึ่งที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้น ซึ่งพบจากภาพถ่ายทางอากาศชี้เป้าตรวจสอบ 2.6 หมื่นแปลง ใช้ที่ดินลักษณะผิดปกติกระจายสิทธินอมินี ทั้งนี้ได้ออกกฎเหล็กป้องกันเจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจตรวจสอบในด่านแรก ผู้ถือครองสามารถนำชี้แนวเขตและระบุแนวเขตได้ มีหลักฐานการเสียภาษี หรือ ภบท.5 เอกสารไปกู้ธกส.กู้กองทุนที่ดิน มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และด่านที่สองเรียกตัวมาพบ เรียกดูเอกสารส.ป.ก.4-01 หากขายแล้วจะไม่มีเอกสารส.ป.ก.4-01 ถ้าผ่าน2 ด่านนี้ การตรวจสอบเปลี่ยนมือ ถือว่าสิ้นสุด

ขณะนี้มีการอ้างถือเอกสารสิทธิ นส.3ก. ในพื้นที่ส.ป.ก.มีจำนวนมากส่วนใหญ่เคยตรวจสอบแล้วนส.3ก.ออกโดยมิชอบ คาดว่าจะเสนอใช้มาตรา44 อีกรอบยึดคืนเลย รวมทั้งพบว่ามีกรณีรายเดียว 900ไร่แต่แบ่งเป็นสองแปลง มีถนน หรือลำรางสาธารณะ อยู่ตรงกลางไม่ครบแปลงละ500ไร่ พบหลายจังหวัดจะแก้ไขในเฟสสองขอใช้มาตรา44 เรียกคืนตั้งแต่ 250ไร่ด้วย

วันเดียวกัน นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ สปก.กาญจนบุรี เผยว่า ได้รับเอกสารสำคัญจากประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามา เป็นหนังสือบันทึกข้อตกลงขายที่ดินให้วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ ระบุเป็นที่ดินใบ ภ.บ.ท.5 เนื้อที่ 1,000 ไร่เศษ ติดกับที่ดินของวัดป่าหลวงตาบัวฯ ซึ่งหนังสือดังกล่าวทำขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2552 โดยที่ดินมีเจ้าของ 2 ราย แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ บอกได้แค่เพียงว่าเป็นข้อตกลงร่วมกัน 2 ฝ่ายระหว่างชาวบ้าน 1 ราย กับสมาคมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ได้เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า ที่ดินที่เป็นของชาวบ้าน อยู่นอกเขตพื้นที่ ส.ป.ก. แต่ที่ดินของสมาคมฯ เนื้อที่ประมาณ 900 ไร่ เป็นที่ดินของ ส.ป.ก.อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเคยมีการแบ่งจัดสรรที่ดินเพื่อนำไปขายแปลงละ 5 ไร่ รวมประมาณ 130 แปลง แต่ไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าไปอาศัยอยู่ เบื้องต้นทราบว่าวัดป่าหลวงตาบัวฯ ก็ยังไม่ได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำเสนอ เลขา สปก.รายงานเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไป

ด้านความคืบหน้า สปก.กาญจนบุรี นำป้ายแสดงกรรมสิทธิ์ไปติดประกาศที่หน้าแปลงที่ดินเนื้อที่ 1,263 ไร่ ของ นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ นักธุรกิจแสนล้าน ที่อยู่ติดกับถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค ห่างจากวัดป่าหลวงตาบัวฯประมาณ 2 กิโลเมตร

ในขณะที่ ผู้บริหาร จากบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครอบครอง หรือซื้อขายที่ดินดังกล่าว โดยบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นบริษัทมหาชน ซึ่งมีผู้บริหาร และกรรมการบริหารที่ชัดเจน ดังนั้นการซื้อที่ดินหรือถือครอบครองที่ดิน บริษัทต้องแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ

นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ เจ้าพนักงาน ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางสปก.ส่วนกลางได้ทำแผนที่จะยึดที่ดินคืนแล้วคาดว่าจะแล้วเสร็จ ประมาณวันที่ 12 กรกฎาคม นี้ รวมทั้งแบบฟอร์มต่างๆ และจะประชุมวางแผนกันอีกหนที่ จ.ชลบุรี ในวันที่ 12 กรกฎาคม เพื่อสรุปงานอีกหน ในเบื้องต้นยึดตาม คสช.คือนำเอกสารที่เกี่ยวข้องไป ปิดประกาศใน 4 จุด ได้แก่ 1.ที่ว่าการอำเภอ 2.ที่ทำการกำนัน 3.ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และ 4.ที่สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ทราบกันเพื่อทำตามขั้นตอนพิสูจน์สิทธิ์ ถ้าครอบครองพื้นที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องยึดคืนและดำเนินคดี

“โดยจังหวัดนครราชสีมานั้น มีที่ดินที่เข้าข่ายตามประกาศครั้งนี้อยู่จำนวน 134 แปลง มีพื้นที่กว่า 113,000 ไร่ กระจายอยู่ใน 18 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ ถือว่ามากที่สุดในประเทศไทยขณะนี้” นายชำนาญ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ส่วนใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา จะอยู่ในพื้นที่อ.ชุมพวง อ.เสิงสาง และอ.สีคิ้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการทำการเกษตร และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือผู้ถือครองมาหลายทอด ส่วนพื้นที่อ.วังน้ำเขียว และอ.ปากช่อง ที่ ส.ป.ก.จะถูกซื้อขายเปลี่ยนผู้ถือครองจากการทำการเกษตรเป็นรีสอร์ทและโฮมสเตย์ ซึ่งมีอยู่กว่า 200 แห่ง โดยล่าสุดทาง สปก.เตรียมที่จะนำเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาลเพื่อใช้แนวทางยึดคืนสำหรับผู้ที่พิสูจน์สิทธิ์ชัดเจนว่าเป็นการบุกรุก ถือครองที่ ส.ป.ก.ผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะผู้ที่ครอบครองเกิน 100 ไร่ ขึ้นไป ส่วนผู้ที่ถือครอง ตั้งแต่ 30-100 ไร่ แล้วนำไปทำการเกษตรหรือทำรีสอร์ท ก็จะเสนอให้เช่าแล้วนำเงินรายได้เข้ารัฐต่อไป

 

ที่มา naewna