เดินเครื่องเป็นระบบ ขบวนการต่อต้านรธน.มุดลงดินใช้วิธีการสกปรกผิดกฏหมาย...อย่าคิดว่าคนไทยโง่??

เดินเครื่องเป็นระบบ ขบวนการต่อต้านรธน. มุดลงดินใช้วิธีการสกปรกผิดกฏหมาย...อย่าคิดว่าคนไทยโง่??

เหลือเวลาอีกแค่เพียง24 วัน ก็จะถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม ซึ่งทำท่าว่าสถานการณ์น่าจะเต็มไปด้วยความร้อนแรงหลังจากที่ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเล่นเกมส์สกปรกด้วยการนำเอาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญปลอมมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในต่างจังหวัด

โดยรายงานล่าสุดถึงขั้นระบุว่า ได้เอาตราครุฑปลอม มาใช้เพื่อที่จะหลอกหลวงกันเลยทีเดียว

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจดหมายกว่า 2,000 ฉบับ  ที่ที่ทำการไปรษณีย์เชียงใหม่ สาขาสันป่าข่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากตรวจพบข้อพิรุธคาดว่าจะเป็นจดหมายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2559

 

มีรายงานว่า จดหมายดังกล่าวใช้ซองสีขาวมีตราครุฑ โดยมีข้อความที่เขียนลักษณะให้ประชาชนอ่านแล้วเกิดความกังวลว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้สิทธิบางอย่างของประชาชนหายไปหรือถูกตัดทอน เช่น สิทธิด้านการรักษาพยาบาลฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ และสิทธิในการเรียนฟรี อีกทั้งระบุว่าคำถามพ่วงในการลงประชามติ หากผ่านจะทำให้ ส.ว.ซึ่งมีวาระ 5 ปี สามารถเลือกนายกฯ ได้ถึง 2 คน

 

ไม่เพียงเท่านั้น  ที่ศูนย์ไปรษณีย์ลำพูน ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบจดหมายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญกว่า 400 ฉบับ ปลายทางแจ้งส่งไปที่ อ.เมืองเชียงใหม่ และอ.จอมทอง โดยใช้ จ.ลำพูน เป็นแหล่งต้นทางส่ง เจ้าหน้าที่จึงสั่งเก็บและตรวจสอบหาผู้ส่งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

เช่นเดียวกับที่จ.ลำปาง ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องคล้ายคลึงกัน โดยพล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร เข้าตรวจยึดจดหมายลึกลับบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญที่ที่ทำการไปรษณีย์สาขาใหญ่จังหวัดลำปาง ซึ่งเก็บรวบรวมเอาไว้กว่า 2 พันฉบับหลังจากตรวจพบจดหมายผิดปกติจำนวนมาก

 

ที่น่าสังเกตคือลักษณะจดหมายเป็นซองสีขาว มีตราครุฑ อยู่มุมซ้ายบน จ่าหน้าซองถึงบ้านเลขที่ของผู้รับ แต่ไม่มีการระบุชื่อถึงผู้รับ และไม่ระบุชื่อของผู้ส่ง และจดหมายบางซอง ไม่ได้ปิดผนึก แต่มีการติดแสตมป์ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกมาดูพบมีข้อความลักษณะเบี่ยงเบนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและเชิญชวนประชาชนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคม

 

ขณะเดียวกันการตรวจพบการทำจดหมายเชิญชวนให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ  การกระทำลักษณะดังกล่าวนั้น  ถือว่าเป็นเจตนาไม่สุจริต ซึ่งต่อจากนี้เจ้าหน้าก็จะดำเนินการตรวจสอบเพื่อขยายผลถึงต้นทางการทำต่อไป

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า  ถือเป็นเจตนาไม่สุจริต อาจจะเป็นบุคคล  หรือกลุ่มบุคคลไปส่งเอกสาร ที่ไม่ระบุชื่อผู้รับ แต่ระบุที่อยู่

 

สำหรับการรักษาความสงบในช่วงนี้ก่อนลงประชามติจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีพื้นที่ใดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมีบางพื้นที่ที่ปรากฏภาพการส่งเอกสารที่บิดเบือนก็ตาม  แต่ทางคสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ติดตาม และประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ทั้งนี้ย้ำว่าไม่มีพิเศษใดที่ต้องจับตามเป็นพิเศษที่จะนำไปสู่ความสับสน และสร้างความวุ่นวาย  ส่วนการเผยแพร่เอกสารปลอมนั้นพบเพียงพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพื้นที่อื่นยังไม่มี

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าที่มาของเอกสาร ผู้ดำเนินการ เส้นทางการสนับสนุนการจัดพิมพ์ และคนที่กระทำ

ขณะที่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวว่า ได้สั่งการให้กกต.ลำปาง แจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ประชามติแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยประชามติของรัฐบาล ประจำจังหวัดลำปาง เข้าดำเนินการ ซึ่งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยได้ใช้อำนาจตามมาตรา44 ทำการอายัดจดหมายทั้งหมด         

 

ขณะนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย สวมหมวดปิดหน้านำจดหมายดังกล่าวมาหย่อนในตู้ไปรษณีย์แล้ว ยืนยันทุกฝ่ายเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระผิดมาให้รวดเร็วที่สุด

นอกจากกระบวนการใต้ดินที่ใช้วิธีการที่ผิดกฏหมายดังกล่าวแล้วนั้นขณะเดียวกันก็พบว่ายังมีการใช้วิธีการที่สกปรกมากกว่านั้นในการทำแบรนเนอร์โดยอ้างอิงคำพูดบรรดาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ว่ารณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาปฏิเสธ การทำแบรนเนอร์ดังกล่าว

ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โดยมีการใส่คำพูดพร้อมกับภาพบุคคลของพรรค อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตส.ส.กระบี่ และสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ซึ่งในข้อความที่ปรากฏส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือรัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ยากมาก

 

สำหรับอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของทางฝั่ง มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ก็เหมือนเช่นทุกๆวัน  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เฟซบุ๊กไลฟ์ เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิกปปส. เผยแพร่ความคิดเห็นส่วนตัว เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เรื่อง "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชาติบ้านเมืองก็คือการทุจริต ประพฤติมิชอบในกลุ่มราชการ ที่กระทำโดยนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลาย จึงได้มีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง โดยได้กำหนดหน้าที่ของ ป.ป.ช. ไว้ เพื่อดูแลในเรื่องของนักการเมืองที่กระทำความผิด ซึ่งส่วนหนึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ว่าหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งต้องออกจากตำแหน่งทันที และห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต

ทั้งนี้นอกเหนือจากขบวนการใต้ดินที่ปรากฏแล้วก็พบว่าการเคลื่อนไหวที่อยู่กับกลุ่มตรงข้ามคสช.ก็ได้ดำเนินการอย่างระบบแม้จะไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าขบวนการสองกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่

กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นำโดย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว และนายกรกช แสงเย็นพันธุ์ สมาชิกกลุ่ม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ผ่านเจ้าหน้าที่ของ กรธ. เพื่อเรียกร้องให้ กรธ. อธิบายรายละเอียดที่ได้จากการตรวจสอบเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายประชามติจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และให้เกิดความเป็นธรรมต่อการรณรงค์ประเด็นความเห็นของร่างรัฐธรรมนูญในจุดยืนของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ

 

ไม่เพียงเท่านั้น นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีร่างรัฐธรรมนูญปลอมว่า ตอนนี้มีความพยายามโหมประโคมข่าวกันใหญ่ จริงๆแล้ว จนบัดนี้ ยังไม่มีร่างปลอมไหนเลย ตามที่เป็นข่าวที่ปรากฎในจดหมายที่ส่งกันในภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง ตามที่เจ้าหน้าที่ชี้แจงก็ไม่ใช่ร่างปลอม แต่เป็นการวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่เป็นปัญหา ซึ่งเจ้าหน้าที่และทางคสช.พยายามบอกว่าเป็นร่างปลอมหรือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่เท่าที่ติดตามเป็นการชี้ให้เห็นปัญหา และตั้งคำถามที่มีมูล หรือมีข้อเท็จจริงรองรับ และเป็นปัญหาที่ประชาชนควรได้รับรู้

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติเปิดเผยว่า ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งส่งเอกสารเรื่องร่างรัฐธรรมนูญถึงประชาชนทางไปรษณีย์ได้ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดก็ย่อมทำได้ หากไม่บิดเบือน หยาบคาย หรือปลุกระดมชี้นำให้ลงคะแนนทางใดทางหนึ่ง ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย สำหรับจดหมายที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบทางภาคเหนือนั้นน่าสนใจว่าเนื้อหาทั้งหมดคืออะไร ดังนั้น เพื่อความโปร่งใส จึงขอเรียกร้องให้กกต.นำเอกสารชุดที่จัดส่งถึงประชาชนกับจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผย เพื่อให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริงและเปรียบเทียบว่าผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร การส่งจดหมายแบบจงใจให้ถูกจับได้เช่นนี้ ส่อว่าจะเป็นวิชา