สัญญาณวิกฤตรอบใหม่! นักท่องเที่ยวจีนในเชียงใหม่เริ่มลดลง หลังเกิดกระแสบอยคอตท่องเที่ยวไทย

จากกระแสข่าวเกี่ยวกับทางการจีนได้ประกาศ บอยคอต หรือ คว่ำบาตร ทางด้านการท่องเที่ยวในเมืองไทย เนื่องจากไม่พอใจที่เกิดการดูหมิ่นและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะคนไทยไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยว ล่าสุดเชียงใหม่เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ทำการสำรวจภาพรวมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนยังมาท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ โดยเฉพาะที่ประตูท่าแพ ยังคงมีชาวจีนแวะเวียนกันไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างต่อเนื่อง

นายวิสูตร บัวชุม ผอ.ททท.สำนักงานเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า สำหรับกระแสข่าวดังกล่าว ทางการจีนประกาศบอยคอตการท่องเที่ยวไทย หลักๆ มาจากเรื่องกฎหมายของกระทรวงคมนาคมของไทย เกี่ยวกับการควบคุมรถยนต์ที่ข้ามแดน แม้ว่าจะยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ก็ตาม

ล่าสุดกฎหมายดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบบ้างแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นคาราวาน ขับรถมาจากเมืองคุนหมิง ลงมายังภาคเหนือของไทย นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้หายไป ผู้ประกอบการต่างเห็นว่าลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกและคล่องตัวในการท่องเที่ยว

สำหรับกฎหมายฉบับดังกล่าวนั้น ได้บังคับให้รถยนต์จากต่างแดนอยู่เฉพาะแค่พื้นที่ติดกับชายแดนเท่านั้น ไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้ และจะถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้กลุ่มรถคาราวานเหล่านั้นได้เปลี่ยนเส้น มาเยือนแค่ จ.เชียงราย ก่อนจะขับไปต่อที่ประเทศเพื่อนบ้านแทน ส่งผลให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ เริ่มลดลง

นายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนจะลดลงอย่างแน่นอน ส่วนหนึ่งจากกฎหมายฉบับนี้ นักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงเหล่านี้จะหายไป และเริ่มต่อต้านไม่เดินทางมาท่องเที่ยวอีก ไม่ใช่แค่เพียงชาวจีนเท่านั้น ยังรวมถึงคณะคาราวานของชาวต่างชาติจากโซนอื่นๆ ทั้งยุโรปหรือเอเชียตะวันออกไกล

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเป็นอันดับที่ 1 จำนวนกว่า 8.7 ล้านคน มีเม็ดเงินเข้ามามากกว่า 3.8 แสนล้านบาท ทางผู้ประกอบการและภาคการท่องเที่ยวจึงรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับประเด็นี้ หวั่นว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้หายไป และนอกจากจะกระทบภาคการท่องเที่ยว ยังอาจจะกระทบไปถึงความสัมพันธ์ของประเทศด้วย