จับตา "โปเกมอน โก" ในวันเข้าไทยวันแรก อาจปลุกปรากฏการณ์ทั้ง "กระแสฮิตและความวุ่นวายครั้งใหม่" ในประเทศสยาม

เกม โปเกมอน  โก ผลิตขึ้นโดยบริษัท เดอะโปเกมอน คอมพะนี พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ไนแอนติก อิงค์ และจัดจำหน่ายโดยบริษัท นินเทนโด โดยเป็นเกมแบบ Augmented Reality หรือเรียกอย่างย่อว่า เกมแบบ AR ที่มีการเชื่อมโลกของเกมเข้ากับสถานที่จริงบนกูเกิ้ล แมป โดยผู้เล่นจะต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อตามหาตัว "โปเกมอน"  หากในสถานที่นั้น ๆ มีโปเกมอนอยู่ เจ้าตัวละครจากการ์ตูนดังจะปรากฎตัวขึ้นบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของผู้เล่นทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส และนับเป็นการสร้างสังคมในรูปแบบใหม่ที่สาวกผู้เล่นเกมสามารถมาพบปะกันได้ตามจุดนัดพบหรือแหล่งรวมตัวที่มีอยู่ในโลกแห่งความจริง ลักษณะอันโดดเด่นและน่าสนใจของเกมนี้ ชี้ให้เห็นความล้ำหน้าอีกขั้นของการพัฒนาในวงการเกมในการหลอมรวมโลกแห่งความจริงและโลกแห่งจินตนาการเข้าด้วยกัน ถึงแม้เกมลักษณะนี้จะได้รับการพัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ถือว่า เกมโปเกมอน โก ได้ช่วยผลักดันให้เกม  AR กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางขึ้นกว่าเดิมมาก และเชื่อว่าเทคโนโลยี AR นี้น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่เหล่านักพัฒนาและนักการตลาดเริ่มจับตามอง

กระแสฮิตของโปเกมอน โก ส่งผลให้ราคาหุ้นนินเทนโดพุ่งขึ้นทันที 24%  และยังหนุนมูลค่าทางตลาดของนินเทนโดพุ่งขึ้นเป็น 7.5 พันล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาเพียง 2 วันในช่วงเปิดตัว อีกทั้งยังมีกระแสเรียกร้องและรอคอยการเปิดตัวในประเทศอื่น ๆ อย่างท่วมท้น ทำให้บางครั้งต้องมีการเลื่อนระยะเวลาในการให้บริการออกไป เนื่องจากบริษัทเกรงว่า เซิร์ฟเวอร์อาจจะไม่พร้อมที่จะรองรับความต้องการของผู้เล่นได้ ซึ่งแม้แต่ข่าวการเลื่อนเปิดให้บริการก็สามารถส่งผลกระทบต่อหุ้นนินเทนโดเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่  9 ก.ค. ที่มีกระแสข่าวว่า  ญี่ปุ่นจะเลื่อนการเปิดตัวเกมดังกล่าวช้ากว่ากำหนด จากเดิมที่ต้องเปิดตัวในวันที่ 10 ก.ค. กระแสข่าวครั้งนั้นส่งผลให้ราคาหุ้นนินเทนโดร่วงลงทันที 10% ในการซื้อขายภาคบ่ายที่ตลาดหุ้นโตเกียว กระแสดังกล่าวได้สร้างความหวังให้แก่นักลงทุนว่า เกมสุดฮิตนี้จะเข้ามาช่วยผลักดันธุรกิจเกมของนินเทนโด แต่กระแสสุดฮอตฮิตนี้ ถือเป็นโอกาสอันโชติช่วงของนินเทนโดจริงหรือ?

หากมองในแง่ของธุรกิจและการลงทุนแล้ว กระแสเกมฮ็อตนี้นี้ ไม่เพียงแต่จะดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเพียงเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าปลีกและร้านอาหารมากมายด้วย ยิ่งถ้าหากร้านใดโชคดี อยู่ใกล้กับบริเวณสำคัญที่เกมกำหนด เช่น ยิมประลอง โปเกมอนช็อป ร้านเหล่านั้นก็จะสามารถโหนกระแสเชิญชวนให้คอเกมที่ต้องเดินผ่านไปมาหน้าร้านเข้ามาแวะใช้บริการ ซึ่งบางร้านก็มีกลยุทธ์ในการดึงดูดด้วยวิธีที่แตกต่างกัน บางร้านถึงขั้นประกาศแจกไอเทม หรือมอบส่วนลดให้แก่ผู้เล่นเกมเลยก็มี  แม้แต่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่างแมคโดนัลด์ก็พลอยโหนกระแสกับเขาไปด้วย บรรดาร้านแมคโดนัลด์สาขาต่าง ๆ ในญี่ปุ่นมีแคมเปญให้ร้านแต่ละแห่งเป็นสนามประลองของผู้เล่นเกม
          นอกจากนี้ กระแสนี้ยังทำให้ผู้เล่นหลายรายเกิดไอเดียหารายได้เสริมจากการเล่นเกมนี้อีกด้วย เช่น การรับจ้างพาเหล่าผู้เล่นเกมเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจับโปเกมอน หรือแม้กระทั่งการรับจ้างจับโปเกมอนกันเลยทีเดียว ซึ่งหากเกมเมอร์ผู้ใดใจกล้าและใจถึง ไม่กลัวต่อการเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ก็อาจยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อจับโปเกมอนให้ตนต่อไป นี่นับเป็นอีกสีสันที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับกระแสนิยมของเกม โปเกมอน โก

หลังจากที่ได้ทราบความเคลื่อนไหวในแง่ของภาคธุรกิจและการลงทุนแล้ว เรื่องราววุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ด้วยการที่ผู้เล่นเกมต้องออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จริง ๆ จึงทำให้ผู้เล่นหลายคนจริงจังถึงขั้นที่ออกเดินไปยังบริเวณที่ไม่คุ้นเคยตามลำพัง ซึ่งเด็กๆ หลายคนอาจเผลอเดินหาโปเกมอนจนห่างสายตาผู้ปกครอง ความวุ่นวายเหล่านี้ ทำเอาเก้าอี้ของเจ้าของแอปสะเทือน ถึงขั้นที่บริษัท เดอะ โปเกมอน คอมพะนี ต้องออกแถลงการณ์ให้ผู้เล่นเกมทุกคนรู้จักระมัดระวังตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องเดินทางไปยังบริเวณต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้เลยว่า กระแสที่ถล่มทลาย มักจะตามมาด้วยความวุ่นวายเสมอ
          เริ่มต้นกันที่สหรัฐฯ มีคดีวัยรุ่น 4 ราย ล่อลวงเหยื่อผ่านแอปเกมดังกล่าว เพื่อจี้ชิงทรัพย์ในเขตใกล้เมืองเซนต์หลุยส์ของรัฐมิสซูรี หรือมีคดีบุกรุกพื้นที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากบรรดาคอเกมวัยคะนองต่างปรารถนาที่จะลงสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อครอบครองตัวโปเกมอน และในบางครั้งผู้เล่นก็นำเอาตัวเองไปพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดแทน เช่น อุบัติเหตุ เจอศพ หรือต้องเจอกับกรณีเกิดความเข้าใจผิดของเจ้าของพื้นที่ ซึ่งคิดว่าผู้เล่นเกมเป็นหัวขโมย เป็นต้น
          ในออสเตรเลียก็เช่นกัน หลังจากที่เกมดังกล่าวเปิดตัว ก็มีรายงานอุบัติเหตุสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุบนท้องถนน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาเตือนประชาชนให้รู้จักระมัดระวัง นอกจากนี้ ยังมีคดีบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวเกิดขึ้นอีกหลายคดี ซึ่งก็เกิดมาจากการที่ผู้เล่นเกมต้องการลงพื้นที่หาตัวโปเกมอนจนลืมพิจารณาถึงความเหมาะสมและการเคารพสิทธิในพื้นที่ส่วนบุคคล พร้อมทั้งได้ย้ำเตือนไม่ให้ประชาชนเข้าไปยังพื้นที่สถานีตำรวจ
          ส่วนทางการประเทศบอสเนียก็ต้องออกมาเตือนประชาชนผู้เล่นเกมให้ระวังตัว ไม่ให้เผลอเดินเหยียบทุ่นระเบิดจากสงคราม ในยุค 90 และได้เตือนให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้ ยังคงมีระเบิดอีกประมาณ 120,000 ลูกฝังอยู่ใต้ดิน
          มาดูเรื่องราวในแถบเอเชียกันบ้าง รัฐบาลอินโดนีเซียได้จับกุมตัวชายชาวฝรั่งเศสหลังจากที่ชายคนดังกล่าวบุกรุกเข้าสู่พื้นที่ของกองทัพเพียงเพื่อที่จะเล่นเกมโปเกมอน โก นอกจากนี้ยังได้สั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจเล่นเกมดังกล่าวในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่โดยเด็ดขาด นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังถูกมองโดยผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพอินโดนีเซียว่า เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงอีกรูปแบบหนึ่ง
          ญี่ปุ่นในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศที่เพิ่งมีการเปิดตัวเกม โปเกมอน โก ภายในประเทศ ได้ตระหนักถึงเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ และได้ออกแคมเปญรักษาความปลอดภัย เตือนประชาชนให้ระมัดระวังอุบัติเหตุและอันตรายล่วงหน้าก่อนที่เกม โปเกมอน โก สำหรับสมาร์ทโฟนจะเปิดตัวขึ้นที่ญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี ความคลั่งไคล้ของคอเกม โปเกมอน โก ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุขนาดเล็กทางรถยนต์และจักรยาน รวมถึงการฝ่าฝืนกฎจราจรไปทั่วประเทศญี่ปุ่นอีกจนได้

          แน่นอนว่าเรื่องราววุ่น ๆ ที่ยกมาแบ่งปันในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบโลก  ยังมีเรื่องวุ่นวายอีกมากมายที่ไม่ได้ยกมาเล่าสู่กันฟัง แต่อย่างน้อยเราก็เชื่อว่า เรื่องราวที่ยกมาเหล่านี้จะสามารถนำมาเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ชาวไทย ก่อนที่เกมสุดฮิตดังกล่าวจะเปิดตัวขึ้นครั้งแรกในไทยเดือนก.ย.นี้  แม้ว่าบางครั้งประเทศเราอาจจะได้เผชิญกรณีที่เกิดขึ้นคล้ายกับญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อาจหยุดยั้งกรณีอุบัติเหตุได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็หวังว่า บทความนี้จะสามารถทำหน้าที่เป็นอีกกระบอกเสียงในการช่วยเตือนสติคอเกมวัยโจ๋ชาวไทย ให้เล่นเกมอย่างมีมีสติและระมัดระวัง ให้รู้จักสนุกอย่างมีขอบเขต เพราะความเสียหายมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว และไม่คุ้มต่อการนำตนเองเข้าไปเสี่ยงกับอันตราย