ลือหึ่ง!?!...คิดล้มคดี"หมอเปรม"แฉ"อ้วน"ขาใหญ่ ตี้ซี้คสช.หวังล้มคดี(รายละเอียด)

ล้มคดีหมอเปรมแฉอ้วนขาใหญ่ ตี้ซี้คสชหวังล้มคดี

31 ก.ค.59 กรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพลักษณะคล้ายดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เข้าพิธีแต่งงานกับหญิงวัยรุ่นเป็นนักเรียนสาวชั้น ม.5 จนตกเป็นข่าวฮือฮา สร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ เรียกกลุ่มผู้สื่อข่าวประจำ จ.ขอนแก่น 5 สำนักไปรอพบในห้องทำงานก่อนปิดล็อกประตูสั่งเจ้าหน้าที่จับนักข่าวแก้ผ้า พร้อมถ่ายคลิปจะนำไปประจาน จนมีการฟ้องร้องและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของดร.นพ.เปรมศักดิ์อยู่ในขณะนี้นั้น
 

ล่าสุด มีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของคนในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมืองบ้านไผ่ กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจยังคงจับกุมวิพากษ์วิจารณ์ ตามสภากาแฟกันอย่างเมามัน ซึ่งบางส่วนก็ไม่เชื่อว่า หมอเปรม จะกระทำการเช่นนี้ แต่ในขณะที่เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่ ต้องการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและพิสูจน์ความจริง เพราะรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะหลายคนบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้บุคคลภายนอกมองชาวบ้านไผ่ว่าเป็นพื้นที่อิทธิพล และอื้อฉาวในเรื่องชู้สาว

น.ส.พายุหะ ปิดตามาตา อายุ 44 ปี อาศัยอยู่ในชุมชนหนองแวงไร่ กล่าวว่า ในฐานะลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ตนรับไม่ได้ ส่วนตัวยอมรับว่า หมอเปรมถือเป็นนักพัฒนาที่ดี แต่มาในระยะหลังๆ จะมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยเฉพาะกรณีนี้ตนก็มีลูกหลานเป็นหญิง รู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะการคุกคามนักข่าวถึงขนาดจับแก้ผ้า ยิ่งรับไม่ได้ เพราะทำให้คนที่อื่นมองว่า เมืองบ้านไผ่กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน จึงขอให้หมอเปรมพิจารณาตัวเอง และยุติเรื่องด้วยการลาออกมาชดใช้กรรมที่ตนได้ก่อขึ้น

ด้าน น.ส.กัญจนา วรวงศ์ อายุ 48 ปี ชาวชุมชนสีหมอน เขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า ตนมีลูกสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียน ข.ก.5 บ้านไผ่ ซึ่งหลังจากมีข่าวอื้อฉาวออกมาก็ได้สอบถามลูกสาวทำให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและในขณะนี้ทั่วทั้งโรงเรียนได้ถูกห้ามเด็กนักเรียนทุกคนพูดเรื่องนี้

"ขณะนี้มีการออกเสียงตามสายห้ามประชาชนไปพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับข่าว ซึ่งระบุว่า หากมีใครเอาเรื่องนี้ไปพูด จะฟ้องร้องดำเนินคดีให้หมด ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันแล้ว แต่กลับมาหาเรื่อง และข่มขู่ชาวบ้าน และไปโทษนักข่าว ทั้งที่เขามีหน้าที่ในการทำหน้าที่สื่อ แต่กลับคุกคามสื่อ" น.ส.กัญจนา กล่าว

น.ส.วันวิสา วัฒนาคมประทีป อายุ 38 ปี ชาวชุมชนสีหมอน เขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ กล่าวว่า การประกาศว่าจะฟ้องคนที่นำเรื่องนี้ไปพูด ยิ่งทำให้ชาวบ้านในชุมชนรู้สึกอึดอัดและต้องการพูดความจริงทั้งหมดว่ามีพฤติกรรมอย่างไร และต้องการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้กระบวนการสอบสวนได้ตรวจสอบอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ หมอเปรม ควรหันหน้าเข้าหากันไปพูดคุยกับสื่อมวลชนที่ถูกกระทำมากกว่าที่จะเปิดหน้าชนกันหรืออ้างไปถึงเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง หรือเลื่อยขาเก้าอี้

ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การที่ ดร.นพ.เปรมศักดิ์ ยังคงออกมาใช้สื่อโซเซียลตอบโต้ประเด็นดังกล่าวอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนเพื่อสร้างกระแสให้มีการปฏิรูปสื่อโดยการอ้างว่าถูกคุกคามส่วนตัวนั้น  เนื่องจากมี "นายอ้วน" ขาใหญ่ในแดนอีสาน คอยให้คำปรึกษา โดยอ้างว่ากำลังพยายามติดต่อผู้ใหญ่ใน คสช. เพื่อให้การช่วยเหลือในเรื่องของผลคดี เห็นได้จากมีการประสานงานช่วงที่มีการไปทำทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจม.44 ปฏิรูปสื่อ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานระบุว่า ขณะนี้ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ออกไปข่มขู่ผู้นำชุมชน และชาวบ้านที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ทั้งกลางวันและกลางคืน บางส่วนทำให้ชาวบ้านกลัวเกรงอิทธิพลไปตามๆ กัน