"แม่" เป็นต้นแบบของนักสู้ "พระพุทธะอิสระ" เชิญชวน ลูกทุกคน กตัญญูกตเวทิตา ต่อผู้ให้กำเนิด... (ประมวลภาพ)

พระพุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความ ในFacebook ระบุข้อความพร้อมภาพว่า เราเป็นภิกษุไม่มีอะไรจะให้แม่ได้นอกจากหลักคิดที่เป็นสัมมาทิฐิ

๓ สิงหาคม ๒๕๕๙

พระใหญ่วันนี้ขอพาแม่ใส่บาตรทำบุญกับพระในวัดอ้อน้อยหน่อยนะจ๊ะ

วันที่ ๑๐ สิงหาคม ปีนี้ตรงกับวันเกิดของแม่ครบ ๘๙ ปีพอดี

อีกทั้งยังถือเป็นวันกตัญญูของวัดอ้อน้อยที่มูลนิธิธรรมอิสระและวัดอ้อน้อยได้กำหนดจัดการสวดมาติกาบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่านผู้มีคุณแก่วัด มูลนิธิ และพระพุทธศาสนา ทั้งที่ล่วงลับไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่ ให้ได้ร่วมอนุโมทนา

 

ซึ่งทุกปีก็ถือโอกาสให้แม่ได้ร่วมทำบุญเข้าสู่พิธีบังสุกุลตายบังสุกุลเป็นตามความเชื่อของคนพุทธที่มีมาแต่โบราณ

การที่แม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีชักบังสุกุลตายบังสุกุลเป็น ก็เพื่อให้แม่ได้มีสติระลึกรู้สึกตัวอยู่เสมอๆ ว่า ชีวิตนี้หนีไม่พ้นความตายและการเกิด

หากยังทำกรรม ไม่ว่าจะเป็นบุญและเป็นบาป ก็จักต้องวนเวียนกลับมาเกิดชดใช้กรรมอย่างหลีกเลี่ยงมิได้

ถ้าทำกรรมชั่ว ก็จะได้เกิดในทุคติภพ

ทำกรรมดีด้วยความชาญฉลาด ก็จักเกิดในสุขคติภพ

การนำพาให้แม่ได้มีสัมมาทิฐิ เข้าใจรู้จักถึงรหัสนัยแห่งกรรมและผลของกรรมอย่างแจ่มชัด

แม่จะได้ไม่เผลอไผลไปทำอกุศลกรรม ทุคติภพก็จักไม่เกิดแก่แม่

พร้อมทั้งเพียรพยายามระมัดระวังรักษากุศลกรรมจนถึงจิตสุดท้ายของชาตินี้ แม่ก็จะได้บังเกิดในสุขคติภพ

เราเป็นภิกษุไม่มีอะไรจะให้แม่ได้นอกจากหลักคิดที่เป็นสัมมาทิฐิ ที่จะเป็นอริยทรัพย์ติดตามตัวแม่ไปได้

ทุกวันพอได้มองเห็นหน้าแม่แล้วมีกำลังใจ หายเหนื่อย หายเพลีย

แม่จะเป็นต้นแบบของนักสู้ต่อสิ่งเลวร้ายให้แก่ฉัน

 

จำได้ว่าแม่เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนแม่ทำงานอยู่โรงงานยาสูบ

หัวหน้างานของแม่ปฏิบัติตัวไม่ดี ทุจริต แม่ไปรู้เห็นเข้าจึงร้องเรียนจนหัวหน้างานถูกตั้งกรรมการสอบสวน

ขณะที่แม่ดำเนินการ แม่ถูกข่มขู่คุกคามสารพัด แม่ไม่เคยหวาดกลัว ทั้งยังสู้จนชนะด้วยวิธีที่ชาญฉลาด

สำหรับฉันแล้ว นี่คือต้นแบบที่แม่ทำดีให้ฉันดู เป็นครูให้ฉันเห็น

แม้แม่จะเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ไม่เคยก้มหัวให้กับอธรรม

 

ฉะนั้น เวลาฉันมีภัย ถูกข่มขู่คุกคาม ทำร้ายทำลายด้วยสารพัดวิธีจากพวกอลัชชีและนักการเมืองนอกกฎหมาย

ซึ่งเป็นผลจากการที่ฉันออกมาต่อสู้กับลัทธิกินรวบประเทศไทย

ฉันจะมีแม่คอยเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจ

ทำให้ฉันองอาจ ยืนหยัดต่อสภาวะบีบคั้นโดยไม่หวาดหวั่น

วันนี้เป็นวันพระใหญ่ อยากให้แม่ได้ใส่บาตรก่อนถึงวันเกิดจริง จึงชวนแม่ไปใส่บาตรพระเณรทั้งวัด ครบบ้างไม่ครบบ้าง เพราะท่านจะเหนื่อย ฉันต้องช่วยท่านใส่ด้วย

แต่ก็เห็นสีหน้าแววตาแม่มีความสุข ฉันก็พลอยเป็นสุขไปด้วย

เอาไว้ถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ฉันจะพาแม่เข้าพิธีบังสุกุลตายบังสุกุลเป็น เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผีปู่ย่าตายาย และท่านผู้มีคุณทั้งหลายอีกที

 

 

ซึ่งบางปีวันเกิดแม่อาจตรงวันหยุด ก็จัดงานกตัญญูในวันนั้นเลย บางปีวันเกิดแม่ไม่ตรงวันหยุดจึงเลื่อนไป เพื่อลูกหลานของแม่ได้มาร่วมงานท่านได้

เพราะสังเกตดูท่านจะมีความสุขมากที่อยู่ท่ามกลางลูกๆ หลานๆ

ปีนี้เลยเลื่อนงานวันกตัญญูให้มาตรงกับวันที่ ๑๒ ส.ค. ๕๙ ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษาพอดี

เลยถือโอกาสทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่งไปด้วย

 

งานดีๆ กิจกรรมดีๆ ที่เต็มไปด้วยหัวจิตหัวใจกตัญญูกตเวทิตาต่อท่านผู้มีคุณเช่นนี้

หากลูกหลานทั้งหลายชวนพ่อแม่มาร่วมได้ ก็ถือว่าสร้างความสุขเป็นมงคลให้แก่ชีวิตพ่อแม่ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า สมดังพระพุทธธรรมคำสอนที่ว่า

“ปูชา จะ ปูชะนียา นัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การบูชาบุคคลที่ควรบูชา นี่เป็นมงคลอันสูงสุด

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง

การบำรุงมารดาและบิดา นี่เป็นมงคลอันสูงสุด”

 

ขอขอบคุณ ขอบใจ ลูกหลานท่านผู้มีคุณทุกท่านที่นำอาหารคาวหวานมาให้แม่และฉันได้ใส่บาตร

ผลบุญครั้งนี้จงบังเกิดแก่ทุกท่านเป็นร้อยเท่าพันทวีด้วยเทอญ

พุทธะอิสระ

อ้างอิงจาก เฟสบุคพระพุทธะอิสระ